ไปเก็บเบอร์รี่กันมั้ย ...

KP Page

 11:19 AM  -  Public

 ข่าวดี! เก็บผลเบอร์รี่ใน "สวีเดน-ฟินแลนด์" เดือนละ 80,000 บาท รับ 7 พันคน
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 11:30:49 น.
 
นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางการสวีเดนว่า ได้ให้โควตาแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้ ประมาณ 5,000 คน โดยสหภาพแรงงานในสวีเดนได้ประกันรายได้ให้แก่ผู้ที่เดินทางไปเก็บผลไม้ จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 80,000 บาท และได้จัดเตรียมทั้งที่พักและข้าวของไว้ให้แรงงานไทยเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะที่พักจัดแยกเป็นหลายแคมป์ ทำให้ไม่แออัดเช่นปีผ่านๆ มา ส่วนประเทศฟินแลนด์จะให้โควตาแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ประมาณ 2,000 คน

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยมาลงทะเบียนเพื่อเดินทางไปเก็บผลไม้ในสวีเดนและฟินแลนด์ ประมาณ 6,000 คน ซึ่งการเดินทางไปทำได้ใน 2 รูปแบบ คือ 1.แจ้งการเดินทางผ่านบริษัทจัดหางาน และ 2.เดินทางไปด้วยตนเองโดยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสวีเดนคนละ 7.5 หมื่นบาท และฟินแลนด์คนละ 6 หมื่นบาท คาดว่าจะเริ่มส่งแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ใน 2 ประเทศนี้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340164253  

More photos from KP Page

KP Page

 11:14 AM (edited)  -  Public

คำบอกเล่าของคนอีสานที่ไปเก็บเบอรรี่ที่สวีเดน 39 คน ที่ถูกบริษัทลอยแพ พร้อมถอนเงินไปจนหมด ทำให้พวกเขายังไม่ได้รับค่าจ้างและค่าทำงานล่่วงเวลาค้างจ่าย ตกคนละกว่าสองแสนบาท

Junya Lek Yimprasert
สถิติที่เห็นและสังเกตุ จะมีกลุ่มคน 4 กลุ่มที่มา
- สายที่ได้ค่าพาคนมา 5,000 บาท/คน ถ้าหามาได้ 10 คน เขาก็ไม่ต้องจ่ายค่านายหน้าของตัวเองแล้ว (พวกนี้คือพวกไปโฆษณาเกินจริงตามหมู่บ้านต่างๆ เพราะมีผลประโยชน์ด้วย และเป็นกลุ่มคนที่ได้กำไรแน่นอน เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่าหัวคิวตัวเอง . .เป็นคนเก่า ชำนาญพื้นที่ และมีแหล่งเก็บของตัวเอง - กลุ่มนี้จะมีประมาณ 200 คน (ได้กำไรแน่ๆ)
- กลุ่มพวกทีมงานบริษัทนายหน้าชาวไทยที่พามาทำหน้าที่ดูแล ทั้งพ่อครัว แม่ครัว หัวหน้าแคมป์ และล่าม พวกนี้จะได้เงินเดือนตายตัวโดยไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งสิ้น จะกลับบ้านด้วยเงินประมาณ 60,000 - 100,000 บาท
- กลุ่มคนงานเก่า ที่จะอยู่กับความเสี่ยงเหมือนกัน จะเป็นพวกเก็บห้าปี ได้ดี สองปี และก็มีแรงลุ้นให้มาเสี่ยงอยุ่เรื่อยๆ กลุ่มนี้จะถือเป็นประมาณ 30-40% ของคนเก็บเบอร์รี่ และจะลดจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ
- กลุ่มเหยื่อกลุ่มใหญ่ ประมาณ 60 % ของคนงานในแต่ละปี (ปีละประมาณ 3000 คน) เป็นกลุ่มเสี่ยง และส่วนใหญ่ก็จะมาครั้งเดียว ปีต่อมาก็จะหาเหยื่อจากชาวบ้านหมุ่บ้านใหม่ไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ บริษัทเบอร์รี่ทั้งสองประเทศจะมีตัวแทนในประเทศไทย โดยตัวแทนเหล่านี้จะทำเรื่องเจรจาโควต้า ไปหาเงินกู้จากผู้ปล่อยเงินกู้ในท้องถ่ิน (ทั้งจากตำรวจ พ่อค้ารายใหญ่ ทำให้คนงานเบี้ยวยากมาก) แก้งค้อจุดใหญ่สุด (ตัวแทนอยู่ที่นี่กันหมด) จะเป็นจุดระดมเงินกู้ท้องถิ่นให้คนมาเก็บเบอร์รี่ปีละนับร้อยล้านบาท

สายและคนเก่าเป็นคนที่ไปหาคนเป็นส่วนใหญ่และมักไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริง เพราะหวังหลอกให้คนมาเก็บเบอร์รี่กับตน - ระบบการจัดการเมืองไทยจึงเป็นแบบนี้ ที่ทำให้หาคนป้อนอุตสาหกรรมเก็บเบอร์รี่ได้ตลอด

ระบบนี้โยงใยมาเฟียท้องถิ่น และสายสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กระทรวงแรงงาน สถานฑุตสวีเดนและฟินแลนด์และบริษัทเบอร์รี่ที่สวีเดนและฟินแลนด์ ซึ่งมีประมาณ 10 บริษัท

อ้อลืมเล่าไป

พบกับนักการเมืองที่เขตภาคเหนือของฟินแลนด์ - พื้นที่ที่ประชากร 25% อยู่ด้วยเงินประกันการว่างงาน และไม่ยอมเก็บเบอร์รี่

เขาบอกว่า บริษัทเบอร์รี่เหล่านี้คือผู้จ่ายภาษี 37% ในภาคเหนือทำให้รัฐบาลฟินแลนด์ต้องยอมไม่พูดเรื่องสิทธิแรงงานไทยกับบริษัทเหล่านี้ เพราะมันเป็นรายได้ของประเทศด้วย

เบอร์รี่ที่ส่งเข้าบริษัทเหล่านี้ 80% เก็บโดยคนงานไทย

หมายความว่าคนงานไทย
นอกจากทำผลกำไรมหาศาลให้บริษัทเหล่านี้ ยอมกลับบ้านเป็นหนี้เป็นสิน
ยังเป็นคนจ่ายเงินดูแลคนฟินแลนด์ที่ภาคเหนือทางอ้อมถึง 37% อีกด้วย

เล็กเรียกมันว่าเป็นการค้าทาสยุคใหม่

ไม่มีอะไรจะโหดร้ายเท่านี้อีกแล้ว คนจน 3,000 กว่าคนจากไทย เดินทาง (จ่ายเองทุกอย่าง) เพื่อมาทำงานอย่างหนัก 2 เดือนที่ฟินแลนด์ เพิ้อสร้างรายได้ให้ฟินแลนด์มีเงินเลี้ยงดูคนของตัวเองที่ว่างงานได้ทั้งปี

มายาภาพของการเก็บเบอร์รี่ที่ฟินแลนด์และสวีเดนคือ มีคนกลุ่มหนึ่งประมาณ 4-500 คน เป็นกลุ่มคนหน้าเดิมที่ได้ประโยชน์ทุกปี กลุ่มนี้จะทำหน้าที่ให้ข่าวว่าเราได้ๆๆๆ และควบคุมคนเสียหายไม่ให้พูดมาก 

แต่กลุ่มเสี่ยง คนหน้าใหม่ อีกสองสามพันต่อคนทุกปี ที่อยู่ภายใต้การควบคุมด้วยนายหน้าผ่านทางการกู้เงิน จะเป็นกลุ่มเสี่ยงกับการขาดทุนหรือเสมอตัว และเป็นกลุ่มที่รัฐต้องดูแล แต่รัฐไทยก็ไม่เคยดูแลอยู่แล้ว 

ลองไปดูข้อมูลร้องเรียนของคนเก็บเบอร์รี่ที่เสียหายที่ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลฯ อุดรฯ ซิว่าเยอะแค่ไหน และรัฐช่วยอะไรได้บ้าง?

และทั้งไทยและสวีเดนและฟินแลนด์ก็พอใจจะเห็นภาพรอยยิ้มของคนกลุ่มเก่าๆ ที่บอกว่าเราได้ๆๆๆ เท่านั้น ไม่จริงจังกับการดูแลและช่วยเหลือคนเสียหายที่จำนวนไม่น้อยทุกปี (เราเสนอตั้งกองทุนดูแลผู้เสียหายด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้รับการใส่ใจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไทยต้องดูแล)

และที่สำคัญไม่รู้เท่าทันอำนาจมืดที่กดทับพวกเขาเป็นทอดๆๆ ทำให้คนเก็บเบอร์รี่ที่เสียหายไม่พูดความจริง หรือไม่มีคนฟังความจริงจากเขา

https://www.facebook.com/junya.yimprasert/posts/3436499391957

เรื่องเล่าจากคนอีสาน 39 คนที่สวีเดน  

เรื่องเล่าจากคนอีสาน 39 คนที่สวีเดน

คำบอกเล่าของคนอีสานที่ไปเก็บเบอรรี่ที่สวีเดน 39 คน ที่ถูกบริษัทลอยแพ พร้อมถอนเงินไปจนหมด ทำให้พวกเขายังไม่ได้รับค่าจ้างและค่าทำงานล่่วงเวลาค้างจ่าย ตกคนละกว่าสองแสนบาท ทั้งสวีเดนและประเทศไทยต่างก็เป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่คนสวีเดนมีระบบรัฐสวัสดิการที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง จนขนาดว่ามีคนว่างงานถึง 300,000 คน ที่รัฐบาลดูแล แต่ไม่มีคนว่างงานสักคนที่ยอมมาทำงานเก็เบอรรี่ที่ต้องการคนแค่ไม่กี่พันคน ต่อปี ต้องนำเข้าคนเก็บเบอรรี่จากประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุชเช่นกัน แต่ไม่มีระบบรัฐสวัสดิการ และปล่อยให้เกษตรกรจากอีสานเหล่านี้ต้องมาเสี่ยงโชคชะตา(กรรม) ที่ต่างแดนเพราะต้องการเงินเพื่อการศึกษาให้ลูกและเพื่อการลงทุนทำการเกษตร กระนั้นก็ตามความเป็นคนอีสานของพวกเขาก็ยังถูกโยงเข้ากับการเมืองอันร้อน ระอุในประเทศไทย ด้วยคำกล่าวว่า พวกเขาไม่มีทางสู้ชนะ เพราะคนอีสานส่วนใหญ่เป็นเสื้อแดง แต่รัฐบาลเป็นเสื้อเหลือง โปรดช่วยกัเนผยแพร่วีดีโอชุดนี้ และร่วมสนับสนุนการต่อสู้ของคนอีสาน 39 คน ที่สวีเดน พวกเขาบอกว่า "ไม่ชนะ - ไม่กลับบ้าน"

KP Page

 11:12 AM (edited)  -  Public

สารคดีเรื่องนี้นำเสนอสภาพความเป็นอยู่และการทำงานเก็บเบอรรี่ของเกษตรกรไทย ที่ผู้ถ่ายทำได้พบและสนทนาด้วยระหว่างเยี่ยมแคมป์คนงานเก็บเบอรรี่ 9 แห่งที่เขตแลปแลนด์...

Junya Lek Yimprasert จรรยาและทีมงานคือกลุ่มที่ตะลุมแคมป์คนงานเบอร์รี่มากที่สุด แม้แต่สื่อฟินแลนด์ก็เข้าไม่ถึง 9 แคมป์เช่นนี้ .. หลังจากสารคดีชิ้นนี้ผลิตออกมา บริษัทเบอร์รี่คุมเข็มมากขึ้น แม้แต่นักข่าวฟินแลนด์ก็ห้ามเข้าแคมป์คนงาน

Junya Lek Yimprasert จรรยามอบสารคดีเรื่องนี้และเรื่องคนเก็บวิกฤติเบอร์รี่ให้ TPBS กับมือคุณไชยาตอนแกมาฟินแลนด์เมื่อปีที่แล้วเลย อยากให้ TPBS ได้นำออกฉายจริงๆ ใครรู้จักคุณไชยา TPBS บ้างกระตุ้นหน่อยนะ

คนเก็บเบอร์รี่ที่ฟินแลนด์  

คนเก็บเบอร์รี่ที่ฟินแลนด์

สารคดีเรื่องนี้นำเสนอสภาพความเป็นอยู่และการทำงานเก็บเบอรรี่ของเกษตรกรไทย ที่ผู้ถ่ายทำได้พบและสนทนาด้วยระหว่างเยี่ยมแคมป์คนงานเก็บเบอรรี่ 9 แห่งที่เขตแลปแลนด์ ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ในเดือนกันยายน 2553 ---------------- ในปี 2553 คนไทยประมาณ 2,000 คน ทำงานวันละ 12-20 ชั่วโมงที่ฟินแลนด์ เพื่อเก็บเบอรรี่รวมกันหลายล้านกิโลให้กับอุตสาหกรรมเบอรรี่ที่ิฟินแลนด์และสแกนดิเน­เวียร์ ในตอนสิ้นสุดฤดูกาล คนเก็บเบอรรี่เหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 140 -- 150,000 บาท ซึ่งจะต้องเก็บเบอรรี่ป่าให้ได้มากกว่า 3,000 กิโล ถึงจะมีเงินเหลือกลับบ้านบ้าง มันไม่มีเศรษฐกิจในอุสาหกรรมเบอรรี่ - มีก็เพียงแต่การกดขี่แรงงานเกษตรกรไทยที่ถูกเอาเปรียบมากอยู่แล้วในเมืองไทย

KP Page

 11:13 AM (edited)  -  Public

Junya Lek Yimprasert shared a link.
2 hours ago
กฎใหม่การเก็บเบอร์รี่ฟินแลนด์ปีนี้ และเบอร์รี่ตัวนี้ "cloudberries" ซึ่งเป็นตัวที่ราคาต่อกก. สูงที่สุด และถือว่าเป็นกำไรของคนงาน ปีนี้ก็ห้ามคนไทยเก็บ . .

เจ้าของประเทศก็เก็บ cloudberries เช่นกัน เพราะราคา/กก สูงที่สุดในหมู่เบอร์รี่ป่าทุกชนิด

ท่ีผ่านมาคนฟินน์เก็บ cloudberries ไม่ทันคนไทย ปีนี้เลยระบุในข้อห้ามคนไทยเก็บ . . แล้วจะเหลือกำไรจากไหน?

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาที่ไม่พูดถึงกันมากคือปัญหาเรื่องสุขภาพ

เพราะอากาศหนาว ฝนตกเกือบตลอดเวลา เจอทั้งยุง ทั้งสภาพหนองลุ่มและเนินเขา และเบอร์รี่ทุกชนิดต้องก้มๆ เงยๆ เก็บตลอด

คนงานจำนวนมากด้วยการเดินเยอะ ในรองเท้าบูตตลอดเวลา จะเจอปัญหาบูตกัดเท่า เกือบทุกคนจะกลับบ้านด้วยสภาพเล็กเท้ากุด

เกือบทุกคนต้องกินยาคลายกล้ามเนื้อ เพื่อแก้ปวดเมื่อย ที่หอบหิ้วกันมาจากเมืองไทยกันเกือบทุกวันตลอดสองเดือน

ไม่สบายก็จะเร่งกินยา เพื่อจะกลับไปเก็บต่อ - ไม่เก็บเบอร์รี่ 1 วันติดลบ 2-3,000 บาท

ดังนั้นแรงกดดันจะสูงมาก คนงานเครียดมาก แม้ช่วงนี้พื้นที่เก็บเบอร์รี่จะเป็นบริเวณที่สวยที่สุดก็ตาม คนงานบอกว่า "ไม่เห็นความสวยอะไรเลย นอกจากเห็นลูกเบอร์รี่เป็นเงินเท่านั้น"

เป็นสภาพการทำงาน 2 เดือนที่โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา พวกเขาต้องทำงานตั้งแต่ ตีสามตีสี่ จนถึงสี่ห้าทุ่มเกือบทุกวัน

ห้ามป่วย ป่วยห้ามพัก พักห้ามเกิน 1 วัน.

https://www.facebook.com/junya.yimprasert/posts/391101497614694
http://yle.fi/uutiset/new_rules_for_foreign_berry-pickers_in_lapland/6175213 

New rules for foreign berry-pickers in Lapland »

Berry companies have agreed on ground rules for wild berry-picking in Finnish Lapland, where foreign migrant pickers have been accused of interfering with hunting and reindeer herding. 

KP Page

 11:05 AM  -  Public

 Junya Lek Yimprasert shared a link.
รายงานนี้จะทำให้เข้าใจกลเกมของทุกฝ่าย

พี่พยายามช่วยคนงานกลุ่มนี้เมื่อปี 2010 (ตามวีดีโอเรื่องของ 39 คนนั่นจ้ะ) เพื่อเรียกร้องเรื่องค่าโอที แต่ก็ไม่ได้ คนงานกลับไปขาดทุนกันเยอะมาก

อ่านและเผยแพร่ได้ตามสะดวก

Junya Lek Yimprasert ผลงานเรื่องนี้และเรื่องช่วยคนงานที่ยุโรปที่พี่ทำมากมาาย ก็ยกให้เป็นผลงานองค์กรอื่นไปหมดเลยค่ะ ตลกปนเศร้าจนพูดไม่ออกจริงๆ - ILO มองมันเป็นเรื่องเรื่องช่องทางการสร้างงานไทยมายุโรป และมองแค่การป้องกันที่ดี แต่ไม่อ่อนไหวพอเรื่องกลไกการค้าแรงงานไทยที่โหดและมีกระบวนการสาวลึกถึงระดับหัวหน้าหน่วยงานในทุกกรมกองที่เกี่ยวข้องของกระทรวงแรงงาน - พี่อยากให้เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานที่เกี่ยวกับการส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศทุกคนต้องแจงทรัพย์สินจริงๆ

รายงานการต่อสู้ของคนงานเก็บเบอรี่ยังไม่จบ »

ไม่ว่าประเทศสวีเดนและฟินแลนด์จะพยายามกันมากแค่ไหนก็ตาม ท่ีจะเผิกเฉยต่อโศกนาฎกรรมนุษย์ และมุ่งหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารป่าที่บริสุทธิ์และปลอดสาร แต่เสียงร้องระงมพร้อมเรื่องเล่าอันเจ็บปวด ที่เกิดจา...... 

KP Page

 11:11 AM (edited)  -  Public

Junya Lek Yimprasert shared a link.
2 hours ago
แม่งเอ๋ย เล่นบอกข่าวไม่หมด -
งานนี่มันแค่ 2 เดือน เดือนละ 80,000 บาทจริง แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาก็ไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท ค่่าอยู่กินที่ทั้งสองประเทศอีกไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท . .เหลือเงินกลับบ้าน (ถ้าเหลือบ้าง) ก็แคค่สองสามหมื่นบาท แต่ทำงานยังทาส ทำงานตัั้งแต่ ตี 4 ยัน สี่ห้าทุ่มทุกวัน ไม่มีวันหยุด

และไม่บอกด้วยว่าข้าราชการระดับสุงในกระทรวงเรียกใต้โต๊ะบริษัทหัวละเท่าไร?

สงสัยต้องเขียนบทความยาว

Junya Lek Yimprasert คนตุลาฯ ร่วมกับเจ้าหน้าไทย ILO ชาวไทย พยายามเจรจาส่งคนงานมาเก็บเบอร์รี่ค่ะ ทะเลาะกับพี่อย่างหนัก - เขามองว่ามันเป็นโอกาสสร้างงานให้คนไทย ซึ่งพี่ไม่เห็นด้วย และแชร์รายงานและสื่อต่างๆ ให้เขารับรู้ตลอด ตอนนี้เขาไม่คุยกับพี่แล้วค่ะ เพราะเห็นต่างกัน

Junya Lek Yimprasert มีคนว่างงานที่ภาคเหนือของฟินแลนด์ 25% แต่ไม่มีใครยอมทำงานเก็บเบอร์รี่ ต้องนำเข้าจากประเทศไทย โดยคนงานหน้าโง่ที่ยอมจ่ายค่าใช้จ่ายแสนแพงเพื่อเงินไม่กี่หมื่นบาท หรือกว่าครึ่งทุกปี กลับบ้านมือเปล่า และต้องไปใช้หนี้นายหน้าที่กู้เงินต่ออีก

ต้องเป็นประเทศที่โหดร้ายและไม่รักประชาชนจริงๆ นั่นแหล่ะ ถึงยอมปล่อยให้คนของตัวเองมาถูกเอาเปรียบที่ต่างแดนมากมายเช่นนี้ . .

คนงานเวียดนาม และคนงานจีน มาปีเดียวก็เข็ดประท้วง จนเวียดนามปิดนโยบายส่งคนเขามาตาย จีนก็ไม่มาอีกแล้ว

แต่คนไทยตามสไตล์การโกหก หลอกลวงเก่งของบริษัทนายหน้าที่ให้ท้ายด้วยพวกข้าราชการกระทรวงแรงงานคอรัปชั่น - แม้คนไทยจะเสียหายกลับไปทุกปี ปีละหลายร้อยและหลายพันคน ก็ยังไม่ยอมทำอะไร หรือปิดเส้นทางนี้ซะ - ยังปล่อยให้คนงานชุดใหม่มาถูกหลอกชุดแล้วชุดเล่า

บอกตรงๆ สามปีที่ผ่านมาจาการพยายามช่วยเหลือคนงานเก็บเบอร์รี่ เห็นแต่ความละโมภของทุกฝ่าย จนจรรยาไม่อยากยุ่งแล้ว.

Junya Lek Yimprasert
กระจายข่าวคนงานเก็บเบอร์รี่ไปเลยว่าปีนี้ถ้ามาแล้วจะต้องกลับบ้านขาดทุน ไม่ต้องกลับบ้าน อยู่ประท้วงที่สวีเดนและฟินแลนด์ต่อนั่นล่ะ อย่าเพิ่งกลับบ้านจนกว่าจะได้เงิน . . เดี๋ยวจรรยาจะนักกิจกรรมศิลปินชาวท้องถิ่นไปช่วยสู้

เพื่อนฝูง นักกิจกรรม ศิลปิน และอาจารย์หลายคนที่นี่ก็เหนื่อยกับปัญหาเบอร์รี่เต็มทนแล้ว . .

https://www.facebook.com/junya.yimprasert/posts/325667120847749

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340164253&grpid=03  

ข่าวดี! เก็บผลเบอร์รี่ใน "สวีเดน-ฟินแลนด์" เดือนละ 80,000 บาท รับ 7 พันคน »

มติชนออนไลน์