2012-06-26

พระสุธนธ์-มโนราห์ .M


KP Muzika

7:50 AM  -  Public
นาฏการ-วรรณกรรม : ละครชาตรี เรื่อง มโนห์รา
จัดแสดงโดย ชมรมเราคือคนไทย
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2536
ณ โรงละครแห่งชาติ

ละครชาตรี เรื่อง มโนห์รา-1 
นาฏการ-วรรณกรรม : ละครชาตรี เรื่อง มโนห์รา จัดแสดงโดย ชมรมเราคือคนไทย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2536 ณ โรงละครแห่งชาติ
 

KP Muzika

7:46 AM  -  Public
มโนห์รา1 .wmv

การแสดงละครชาตรีเรื่อง พระสุธนมโนห์รา ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2555 เวลา 13.30 น.
การแสดงละครชาตรีเรื่อง พระสุธนมโนห์รา ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2555 เวลา 13.30 น.

KP Muzika

7:44 AM (edited)  -  Public

เป็นชุดการแสดงที่กองการสังคีต กรมศิลปากร ปัจจุบันคือสถาบันนาฏดุริยางคศิลป์ ได้สร้างสรรค์ขี้นเพื่อนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศ
ท่าน ผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากร และศิลปินแห่งชาติ ตัดตอนปรับปรุงท่ารำมาจากการแสดงละครเรื่องมโนห์รา ตอนนางกินรีเล่นน้ำที่สระโบกขณี ซึ่งจัดแสดงให้ประชาชน ณ โรงละครศิลปากร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยปรับปรุงท่ารำให้กลมกลืนกับท่วงทำนองเพลงเชิดจีนผสมกับท่าเหินบินของ กินรี ต่อมาได้เพิ่มเติมนำลีลาท่ารำบูชายัญของนางมโนห์รามารำต่อท้ายเพลงเชิดจีน
เป็นชุดการแสดงที่กองการสังคีต กรมศิลปากร ปัจจุบันคือสถาบันนาฏดุริยางคศิลป์ ได้สร้างสรรค์ขี้นเพื่อนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศ ท่าน ผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากร และศิลปินแห่งชาติ ตัดตอนปรับปรุงท่ารำมาจากการแสดงละครเรื่องมโนห์รา ตอนนางกินรีเล่นน้ำที่สระโบกขณี ซึ่งจัดแสดงให้ประชาชน ณ โรงละครศิลปากร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยปรับปรุงท่ารำให้กลมกลืนกับท่วงทำนองเพลงเชิดจีนผสมกับท่าเหินบินของ กินรี ต่อมาได้เพิ่มเติมนำลีลาท่ารำบูชายัญของนางมโนห์รามารำต่อท้ายเพลงเชิดจีน

KP Muzika

7:43 AM (edited)  -  Public
รำมโนห์ราบูชายัญ เป็นการรำเดี่ยวที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม ของนางกินรีที่มีชื่อว่า "มโนห์รา" ในตอนหนึ่งของละครเรื่องมโนห์ราที่กรมศิลปากรปรับปรุงขึ้นใหม่ กล่าวถึงนางมโนห์ราถูกปุโรหิตผู้ริษยากราบทูลยุยงท้าวอาทิตยวงศ์ ให้พระสุธนไปปราบศึกและจับนางกินรีมโนห์รามาบูชายัญ เพื่อสะเดาะพระเคราะห์ท้าวอาทิตยวงศ์ นางมโนห์ราจึงอุบายทูลขอปีกหางและนำมาสวมใส่แล้วร่ายรำตามแบบกินรีให้ทอดพระเนตรเป็น­­ครั้งสุดท้าย การรำตอนนี้เองที่เรียกว่า มโนห์ราบูชายัญ จากนั้นนางก็บินหนีกลับไปยังนครไกรลาศ

รำมโนห์ราบูชายัญ-รำซัดชาตรี 
รำมโนห์ราบูชายัญ รำมโนห์ราบูชายัญ เป็นการรำเดี่ยวที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม ของนางกินรีที่มีชื่อว่า "มโนห์รา" ในตอนหนึ่งของละครเรื่องมโนห์ราที่กรมศิลปากรปรับปรุงขึ้นใหม่ กล่าวถึงนางมโนห์ราถูกปุโรหิตผู้ริษยากราบทูลยุยงท้าวอาทิตยวงศ์ ให้พระสุธนไปปราบศึกและจับนางกินรีมโนห์รามาบูชายัญ เพื่อสะเดาะพระเคราะห์ท้าวอาทิตยวงศ์ นางมโนห์ราจึงอุบายทูลขอปีกหางและนำมาสวมใส่แล้วร่ายรำตามแบบกินรีให้ทอดพระเนตรเป็น­ครั้งสุดท้าย การรำตอนนี้เองที่เรียกว่า มโนห์ราบูชายัญ จากนั้นนางก็บินหนีกลับไปยังนครไกรลาศ Manohra Dance of Sacrifice by Fire Manohra dance featuring the sacrifice by fire is a solo dance excerpt from the story called Prince Suthon and the Kinnari Manohra. Manohra is a half bird - half woman creature Kinnari, wife of Prince Suthon. While the prince is engaging in the war at the front, the unscrupulous court advisors conspire to misleading the king to believe that he is in a desperately ill situation. The only means to eradicate the evil spell is by sacrificing his daughter - in - law, Manohra, by fire. The ceremony for sacrifice by fire is thus prepared. Manohra pretends to accept the sacrifice, but offers to delight the king with a farewell dance, with one proviso; that it will not be perfect unless she has back her full dress, complete with the wings and tail which were original taken from her. Her demand fulfilled, she dances a few rounds, then flies away to her homeland. รำซัดชาตรี รำซัดชาตรี เป็นการแสดงที่ได้รับการปรับปรุงท่ารำมาจากรำซัดไหว้ครูในการแสดงละครชาตรี ซึ่งมีประเพณีถือกันว่า จะต้องรำเบิกโรงก่อนการแสดงละคร โดยให้ผู้แสดงฝ่ายชาย (ตัวพระ) 1 คน รำไหว้ครูที่เรียกกันว่า "รำซัด" คือรำซัดท่าไปตามท่วงทำนองและจังหวะเพลง ซึ่งต่อมากรมศิลปากรได้ดัดแปลงให้มีผู้รำทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง หรือบางครั้งเป็นแบบหญิงล้วนหรือชายล้วน รำให้เข้ากับจังหวะโทน กลอง กรับ ที่มีความกระฉับกระเฉง Ram Sat Chatri Chatri is a form of dance - drama that is popular in the southern parts of Thailand, especially Petchaburi Province. According to the tradition, the Chatri is the prototype of all forms of Thai dance - drama, which are its modifications in successive periods. It is the custom that the leading male dancer of the troupe must perform a prelude, which is known as the Ram Sat to the accompaniment of pipe and drums. This preliminary dance is actually the ceremony of paying homage to the dancer teacher. In this instance, the original Ram Sat has been adapted for group dancing by both male and female dancers. Only the graceful movements of the old dance are retained while new gestures make it modern and attractive. It is a development of old Ram Sat dance to meet the requirements of modern attention. ข้อมูลจาก : กรมศิลปากร. วิพิธทัศนา พร้อมคำอธิบายชุดการแสดงและภาพประกอบ.



KP Muzika

7:52 AM  -  Public
ซัดชาตรี SAT-CHA-TREE

ซัดชาตรี โดย
อาจารย์ปกรณ์ พรพิสุทธิ์
อาจารย์ขวัญใจ คงถาวร (ครูจูน)

รำซัดชาตรี เป็นการแสดงที่นิยมจนมีแบบแผนเป็นของตนเอง ในแบบศิลปะทางใต้ของไทย ปรับปรุงมาจากรำซัดไหว้ครูของละครชาตรี ซึ่งเคยเป็นละครรำแบบเก่าชนิดหนึ่งของไทย ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของละครรำประเภทต่างๆ ซึ่งได้รับการปรับปรุงในสมัยต่อมา ประเพณีการแสดงละครชาตรี ถือธรรมเนียมกันว่าผู้แสดงตัวพระ จะต้องรำไหว้ครูเป็นการเบิกโรงเรียกว่า " รำซัด " โดยมีโทน ปี่ กลอง กรับ ประกอบจังหวะ ต่อมากรมศิลปากรได้ดัดแปลงรำซัด และปรับปรุงให้มีผู้รำทั้งฝ่ายชาย(ตัวพระ) และหญิง(ตัวนาง) เพื่อให้น่าดูมีชีวิตชีวา โดยรักษาจังหวะอันเร่งเร้าไว้อย่างเดิม สิ่งสำคัญของการรำนั้น จะมีการรวมจุดที่กำหนดเป็นอย่างดีระหว่างท่าทางที่เคลื่อนไหว ในระหว่างที่รำอยู่ในจังหวะที่เร่งเร้าของผู้รำ กับจังหวะของการตีกลอง ผู้ตีกลองจะต้องตีกลองไปตลอดเวลาไปพร้อมๆ กับผู้ที่ร่ายรำจนครบจังหวะของการแสดง ให้ประสานกลมกลืนกัน จนเป็นที่นิยมชมชอบจากผู้ชมที่ได้ชมการแสดงชุดนี้เสมอมา 
ซัดชาตรี โดย อาจารย์ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ อาจารย์ขวัญใจ คงถาวร (ครูจูน) ตัดตอนมาจาก กินรีร่อนออกซัดชาตรี http://youtu.be/RMX7F-V-8VM รำซัดชาตรี เป็นการแสดงที่นิยมจนมีแบบแผนเป็นของตนเอง ในแบบศิลปะทางใต้ของไทย ปรับปรุงมาจากรำซัดไหว้ครูของละครชาตรี ซึ่งเคยเป็นละครรำแบบเก่าชนิดหนึ่งของไทย ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของละครรำประเภทต่างๆ ซึ่งได้รับการปรับปรุงในสมัยต่อมา ประเพณีการแสดงละครชาตรี ถือธรรมเนียมกันว่าผู้แสดงตัวพระ จะต้องรำไหว้ครูเป็นการเบิกโรงเรียกว่า " รำซัด " โดยมีโทน ปี่ กลอง กรับ ประกอบจังหวะ ต่อมากรมศิลปากรได้ดัดแปลงรำซัด และปรับปรุงให้มีผู้รำทั้งฝ่ายชาย(ตัวพระ) และหญิง(ตัวนาง) เพื่อให้น่าดูมีชีวิตชีวา โดยรักษาจังหวะอันเร่งเร้าไว้อย่างเดิม สิ่งสำคัญของการรำนั้น จะมีการรวมจุดที่กำหนดเป็นอย่างดีระหว่างท่าทางที่เคลื่อนไหว ในระหว่างที่รำอยู่ในจังหวะที่เร่งเร้าของผู้รำ กับจังหวะของการตีกลอง ผู้ตีกลองจะต้องตีกลองไปตลอดเวลาไปพร้อมๆ กับผู้ที่ร่ายรำจนครบจังหวะของการแสดง ให้ประสานกลมกลืนกัน จนเป็นที่นิยมชมชอบจากผู้ชมที่ได้ชมการแสดงชุดนี้เสมอมา

KP Muzika

7:51 AM  -  Public
รำซัดชาตรี
 

KP Muzika

7:49 AM (edited)  -  Public
ฟ้อนมโนราห์เล่นน้ำ วนศ.ร้อยเอ็ด
เป็นการฟ้อนที่ได้ตัดตอนเนื้อหามาจากวรรณกรรมพื้นเมืองอีสาน-ล้านช้าง เรื่อง ท้าวสีทน-มโนราห์ หรือในท้องที่ภาคกลางของไทยรู้จักในเรื่อง พระสุธน มโนราห์ อันเป็นเรื่องที่มีเค้ามาจากชาดกทางพระพุทธศาสนา จึงเป็นวรรณกรรมที่แพร่หลายอย่างมาก ทั้งไทยและลาว 
เป็นการฟ้อนที่ได้ตัดตอนเนื้อหามาจากวรรณกรรมพื้นเมืองอีสาน-ล้านช้าง เรื่อง ท้าวสีทน-มโนราห์ หรือในท้องที่ภาคกลางของไทยรู้จักในเรื่อง พระสุธน มโนราห์ อันเป็นเรื่องที่มีเค้ามาจากชาดกทางพระพุทธศาสนา จึงเป็นวรรณกรรมที่แพร่หลายอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟ้อนมโนราห์เล่นน้ำ ได้เลือกเอาตอนหนึ่งมาแสดงคือ ตอนที่นางมโนราห์และพี่ทั้งหกตน ลงจากเขาไกรลาสมาเล่นน้ำในสระอโนดาต เมื่อพรานบุญผ่านมาพบเข้าเห็นเหล่านางกินรีเล่นน้ำอยู่ จึงใช้บ่วงนาคบาทจับตัวนางมโนราห์ไป พี่ๆของนางมโนราห์ไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้ จึงต้องบินกลับเขาไกรลาสไป ฟ้อนมโนราห์เล่นน้ำ ได้ประดิษฐ์คิดค้นการแสดงโดย คณาจารย์จาก วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด โดยมี อ.ทองคำ ไทยกล้า เป็นผู้จัดทำนองลายดนตรี อ.ทรงศักดิ์ ประทุมศิลป์ เป็นผู้ปรับปรุงตกแต่งความกลมกลืนของท่าฟ้อนและทำนองลายเพลง อ.ฉวีวรรณ ดำเนิน(พันธุ) เป็นผู้ประดิษฐ์ท่าฟ้อนและออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมกับ อ.จีรพล เพชรสม ท่าฟ้อนที่ใช้ในการแสดงชุด ฟ้อนมโนราห์เล่นน้ำ ได้แก่ ท่ายูงรำแพน ท่าสาวประแป้ง ท่าอุ่นมโนราห์ ท่าอาบน้ำ ท่าบัวหุบบัวบาน ท่าไซร้ปีกไซร้หาง ท่าตีกลองน้ำ ท่าบินโฉบ เป็นต้น ดนตรี บรรเลงด้วยวงโปงลาง ลายลำเพลินแก้วหน้าม้า

KP Muzika

7:42 AM  -  Public
(วีดิทัศน์ที่นำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนรายวิชาทักษะนาฏศิลป์ไทย ของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร) โครงการสืบทอดนาฏศิลป์ไทยจากศิลปินแห่งชาติหรือผู้เชี่ยวชาญ ประจำปี 2553 ถ่ายทอดท่ารำและกำกับการบันทึกเทปโดย อ.เวณิกา บุนนาค และ อ.ตวงฤดี ถาพรพาสี แสดงโดย ตัวพระ-อ.วรวิทย์ ทองเนื้ออ่อน ตัวนาง-อ.ปริญญา อ่ำรอด

KP Muzika

7:41 AM  -  Public
(วีดิทัศน์ที่นำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนรายวิชาทักษะนาฏศิลป์ไทย ของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร) โครงการสืบทอดนาฏศิลป์ไทยจากศิลปินแห่งชาติหรือผู้เชี่ยวชาญ ประจำปี 2553 ถ่ายทอดท่ารำและกำกับการบันทึกเทปโดย อ.เวณิกา บุนนาค และ อ.ตวงฤดี ถาพรพาสี แสดงโดย ตัวพระ-อ.รุ่งนภา ฉิมพุฒ ตัวนาง-อ.รัชดาพร สุคโต

KP Muzika

7:40 AM  -  Public
เบิกโรงเมขลา รามสูร รายการคันฉ่องส่องไทย

KP Muzika

7:40 AM  -  Public
โดย อ.บุนนาค ทรรทรานนท์ แสดงในรายการนัฏกานุรักษ์ ตอน ละครชาตรี รำมโนห์ราบูชายัญ รำมโนห์ราบูชายัญ เป็นการรำเดี่ยวที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม ของนางกินรีที่มีชื่อว่า "มโนห์รา" ในตอนหนึ่งของละครเรื่องมโนห์ราที่กรมศิลปากรปรับปรุงขึ้นใหม่ กล่าวถึงนางมโนห์ราถูกปุโรหิตผู้ริษยากราบทูลยุยงท้าวอาทิตยวงศ์ ให้พระสุธนไปปราบศึกและจับนางกินรีมโนห์รามาบูชายัญ เพื่อสะเดาะพระเคราะห์ท้าวอาทิตยวงศ์ นางมโนห์ราจึงอุบายทูลขอปีกหางและนำมาสวมใส่แล้วร่ายรำตามแบบกินรีให้ทอดพระเนตรเป็น­ครั้งสุดท้าย การรำตอนนี้เองที่เรียกว่า มโนห์ราบูชายัญ จากนั้นนางก็บินหนีกลับไปยังนครไกรลาศ Manohra Dance of Sacrifice by Fire performed by Boonnak Tantranon Manohra dance featuring the sacrifice by fire is a solo dance excerpt from the story called Prince Suthon and the Kinnari Manohra. Manohra is a half bird - half woman creature Kinnari, wife of Prince Suthon. While the prince is engaging in the war at the front, the unscrupulous court advisors conspire to misleading the king to believe that he is in a desperately ill situation. The only means to eradicate the evil spell is by sacrificing his daughter - in - law, Manohra, by fire. The ceremony for sacrifice by fire is thus prepared. Manohra pretends to accept the sacrifice, but offers to delight the king with a farewell dance, with one proviso; that it will not be perfect unless she has back her full dress, complete with the wings and tail which were original taken from her. Her demand fulfilled, she dances a few rounds, then flies away to her homeland. ข้อมูลจาก : กรมศิลปากร. วิพิธทัศนา พร้อมคำอธิบายชุดการแสดงและภาพประกอบ.

KP Muzika

7:40 AM  -  Public
ดรสาแต่งตัว-แบหลา 1
โดย อ.บุนนาค ทรรทรานนท์
โดย อ.บุนนาค ทรรทรานนท์

No comments:

Post a Comment