ส.ส. รัสเซียเสนอให้รัฐบาลตัดความสัมพันธ์กับไทย กรณีวิคเตอร์ บูท
November 19, 2010
นายนิติภูมิ นวรัตน์ คอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้เสนอข่าวที่แปลจากสำนักข่าว Ria Novosti และ Itar-TASS (ทั้งคู่เป็นสำนักข่าวของทางการรัสเซีย) ในคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 ดังนี้
จากสำนักข่าว Ria Novosti และ Itar-TASS ซึ่งรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐสภารัสเซียเมื่อวันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553 ความว่า “พรรคเสรีประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียตัดความสัมพันธ์ ทางการทูตทั้งหมดกับไทย เพื่อโต้ตอบที่รัฐบาลไทยส่งออกนักธุรกิจรัสเซีย วิคเตอร์ บูท เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้กับสหรัฐอเมริกา”ส.ส.เซรเกย์ อีวานอฟ รองประธานกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเสรีประชาธิปไตย อภิปรายในสภาดูมาว่า “พรรคเสรีประชาธิปไตยเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตทั้งปวงกับไทย และพรรคยังต้องการให้รัสเซียยุติการติดต่อทางอากาศทั้งหมดกับไทย และให้นักท่องเที่ยวรัสเซียที่ชอบไปเยือนประเทศไทยเพื่อจะดูกะเทย หันไปเที่ยวหมู่เกาะกูริลแทน”
จากการตรวจสอบของ SIU บนเว็บไซต์ภาคภาษาอังกฤษของทั้ง Ria Novosti และ Itar-TASS ไม่พบข่าวชิ้นนี้ อย่างไรก็ตามข่าวอาจปรากฎบนเว็บไซต์ภาคภาษารัสเซีย ส่วน ส.ส. เซรเกย์ อีวานอฟ สามารถดูประวัติได้จากWikipedia และพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ LDDR (Liberal Democratic Party of Russia) เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ชาตินิยมของรัสเซีย ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2007 ได้ที่นั่งในสภาดูมา 40 ที่นั่งจากทั้งหมด 450 ที่นั่ง
ทางการรัสเซียได้กล่าวโทษสหรัฐอเมริกาว่ากดดันทั้งฝ่ายรัฐบาลและศาลยุติธรรมไทยให้ส่งตัววิคเตอร์ บูท ให้อเมริกา (Itar-TASS) ส่วนนางอัลลา ภรรยาของนายวิคเตอร์ และนายวิคเตอร์ บูโรบิน (Viktor Burobin) ทนายความของวิคเตอร์ บูต ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นความล้มเหลวทางนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย และกล่าวโทษสหรัฐที่ขยายอิทธิพลด้านกระบวนการยุติธรรมมายังประเทศอื่นๆ (Ria Novosti)
สถานทูตรัสเซียที่กรุงเทพฯ ได้ร้องเรียนทางการไทยว่าไม่ยอมแจ้งทางสถานทูตเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีนี้ในช่วงแรก (Washington Post)
บทวิเคราะห์ SIU
ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของประเทศไทยกับรัสเซียคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก การเรียกร้องของ ส.ส. เซรเกย์ อิวานอฟ คงเป็นแค่การฉวยโอกาสจากสถานการณ์เพื่อประโยชน์ทางการเมืองด้วยส่วนหนึ่ง แต่ด้วยการที่เป็นพรรคเล็กในรัฐสภาคงไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสัญญาณที่น่าสนใจว่าประเทศไทยกับรัสเซียยังมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ไม่แนบแน่นสักเท่าไรนัก และกรณีลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสะดวกของนักธุรกิจไทย หรือคนไทยในรัสเซียอยู่บ้าง กระทรวงต่างประเทศไทยควรใช้โอกาสนี้ ทำความเข้าใจและอำนวยความสะดวกให้กับฝ่ายรัสเซียให้มากขึ้น
No comments:
Post a Comment