2011-02-23

Fx.หุ้นวันที่22ก.พ.

พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ ต่างชาติขาย 98 ล้าน 
รายย่อยซื้อ 1.3 พันล้าน สถาบันขาย 922 ล้าน  บัญชีบล.ขาย 312 ล้าน

พอร์ตลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ แยกตามประเภทนักลงทุน ณ วันที่ 22 ก.พ. 2554 
   
นักลงทุน                      ซื้อ ขาย สุทธิ  (หน่วย: ล้านบาท) 
 
สถาบัน             2,623.73  3,546.69  -922.96    
 
บัญชีบล.         3,542.63  3,855.18  -312.55    
 
ต่างประเทศ    5,604.77  5,703.43  -98.66    
 
ในประเทศ   16,532.93  15,198.76  1,334.17    
 
มูลค่าการซื้อขายรวม 28,304.06 ล้านบาท



หุ้นวันที่22ก.พ.ปิดลบ8.46 จุด

  • 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 17:10 น. |
ดัชนีปิดที่ 987.21 จุด ลดลง 8.46 จุด หรือ 0.85 % แตะระดับสูงสุด 989.82 จุด 
และต่ำสุดที่ 982.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,304 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วย ผู้อำนวยการอาวุโส 
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า 
ดัชนีหุ้นวันนี้ปิดในแดนลบ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคที่ปรับลง
ตามความกังวลเรื่องกรณีการประท้วงในประเทศลิเบีย 
ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดขึ้นในระดับ 107 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล 
แต่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงกว่าเพื่อนบ้านปรับลงกว่าเพื่อนบ้านที่ส่วนใหญ่ลง 1-2 % 
เป็นเพราะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงส่งจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ต่างปรับขึ้นทั่วหน้า 
พร้อมกับเป็นผลจากที่แรงซื้อต่างชาติที่เข้ามาซื้อต่อเนื่อง 5 วันช่วยพยุงไว้
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่า ตลาดหุ้นยังเป็นขาลงในระยะยาว 
เพราะทั้งจากกรณีลิเบียที่มีผลทำให้ราคาน้ำมันมีความผันผวน 
และยังมีกรณีเงินเฟ้อที่จ่อกดดันภูมิภาคเอเชียอยู่ 
ดังนั้น ตอนนี้นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุน 
และติดตามข่าวสารและสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวนส์โจนส์ล่วงหน้ายังมีการเคลื่อนไหวที่ติดลบในหลักร้อยจุด 
และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าบวกได้เล็กน้อย
สำหรับพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) ประเมินกรอบแนวต้านที่ 995-1,000 จุด และแนวรนับที่ 975-980 จุด 
โดยกลยุทธ์การลงทุนตอนนี้ แนะนำให้ซื้อขายระยะสั้นในพอร์ตการลงทุนเพียง 30 % เท่านั้น 
โดยเน้นเลือกลงทุนในหลักทรัพย์เป็นรายตัว ที่มีข่าวรายวันหรือคาดว่าผลประกอบการ
จะออกมาดีและไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นน้อย 
เช่น กลุ่มพลังงาน และ กลุ่มโรงพยาบาล
หลักทรัพย์ที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
CPF   มูลค่าการซื้อขาย 2,489 ล้านบาท ปิดที่  23.40  บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท (+1.74%) 
IVL   มูลค่าการซื้อขาย 2,090 ล้านบาท ปิดที่  44.25  บาท เพิ่มขึ้น 2.00  บาท (+4.73%) 
PTTEP   มูลค่าการซื้อขาย 1,550 ล้านบาท ปิดที่  174.50  บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+0.58%) 
PTTCH   มูลค่าการซื้อขาย 1,527 ล้านบาท ปิดที่  151.00  บาท ลดลง 3.00 บาท (-1.95%) 
PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,373 ล้านบาท ปิดที่  333.00  บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท (+0.60%)








ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.38 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.61 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลังญี่ปุ่นถูกมูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตเรตติ้ง โบรกเกอร์คาดดัชนีผันผวน แนะเก็บหุ้นใหญ่ช่วงขาลง เน้นพลังงานปัจจัยหนุนหลายด้าน เก็งกำไร  8 หุ้นเด่น ได้แก่ AIT,BANPU, CPF, PTTCH, CK, BH,TOP,PTTAR
บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: Sideways down จากแรงกดดันในตะวันออกกลาง
แม้แรงซื้อต่างชาติยังหนุนต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ไปกว่า 3.3 พันล้านบาท วานนี้ แต่แรงกดดันจากปัจจัยแวดล้อมเชิงลบยังคงอยู่ โดยเฉพาะสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง-แอฟริกาตอนเหนือ ที่ดูเหมือนจะลุกลามออกไปในหลายประเทศมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศลงทุนในภูมิภาค คาดตลาดหุ้นไทยจะเผชิญความผันผวนเช่นเดียวกับการซื้อขายวานนี้ แม้ดีดตัวใกล้ระดับ 1000 จุด แต่ยังไม่น่าผ่านไปได้ง่ายดายนัก ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังมีความเสี่ยงทางลงอยู่มากพอควร โดยรวมมอง SETI จะเทรด Sideways-Sideways down
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเน้นข้างขาย การเก็งกำไรจำกัดไว้ไม่ให้เกิน 30% ของพอร์ต เน้นการเลือกหุ้นรายตัวมากขึ้น
แนวต้าน : 1000-1008 แนวรับ : 987-980
การจัดพอร์ตระยะสั้น - หุ้น 0-30% : เงินสด 70-100%
หุ้นแนะนำ:
1. PTTCH เก็งกำไร FV = 184 บาท แนวโน้มผลประกอบการดี+ลุ้นสรุปการควบรวม
2. AIT เก็งกำไร FV = 50.75 บาท ผลประกอบการดีกว่าคาด+ปันผล 3 บาท Yield 6.6%
 บล.ทรีนีตี้ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ จบอียิปต์ ต่อที่ลิเบีย เป็นภาคต่อความกังวลตลาดโลก กองกำลังทหารลิเบียใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 233 ศพ นับตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมถึงผู้นำชนเผ่าอัล-ซูเวย์ยาในลิเบียได้ขู่ว่าจะระงับการส่งออกน้ำมัน นอกเสียจากว่าทางการลิเบียจะยุติการกดขี่กลุ่มผู้ประท้วง หลังจากที่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมากนอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ประท้วงในลักษณะเดียวกันที่ประเทศอื่นๆในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่สามารถผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 36%ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น ผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ค่าการกลั่นตกกลับลงมาเหลือระดับ 3 เหรียญฯ กว่าความผันผวนในธุรกิจและหุ้นพลังงานอาจจะเริ่มเกิดจากสาเหตุนี้ อย่างไรก็ตามหากหุ้นโรงกลั่นเช่น TOP ปรับตัวลง 72.50 บาท, PTTAR 38 บาท แนะนำเข้าซื้ออีกทั้งในช่วง 9 มี.ค.54 เราคาดการณ์ว่า กนง.จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ในสัปดาห์นี้เรามองตลาดหุ้นไปจนถึงสิ้นสัปดาห์ไปสู่ทิศทางลง แต่ไม่มากแนวรับ972 จุด แต่ยังกังวลการลงหนักเกิดในเดือน มี.ค. จากที่ขึ้นมา 3% จากโลว์ในเดือนก.พ.จะกลับลงได้สัก 3% ในเดือน มี.ค.หลังการประกาศงบเสร็จสิ้นและความขัดแย้งทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศ เริ่มปะทุกรอบวันนี้ แนวรับ 985 แนวต้าน 1,000
Today’s Selection:BANPU, CPF, PTTCH, CK, BH
 KGI ประเมินดัชนีหุ้นไทยวันอังคารเปิดปรับลง รอซื้อตามแนวรับ ความเสี่ยงทางการเมืองในตะวันออกกลางยกระดับขึ้นหลังจากการชุมนุมในลิเบียทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสาดกระสุนใส่ประชาชนโดยทหารของรัฐบาล การที่ผู้ชุมนุมบุกเข้าถึงเมืองหลวงของลิเบีย รวมทั้งการที่ฝ่ายรัฐฯ คงมีท่าทางแข็งกร้าว ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงในระยะสั้นและน่าจะขายหุ้นออกมานอกจากนี้จิตวิทยาในเอเชียยังเป็นลบจากเรื่องที่มูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มเครดิตของญี่ปุ่นเป็น ‘เชิงลบ’ ในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ดีสถานการณ์ในตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งแรงมาก และน่าจะทำให้กลุ่มพลังงานลงน้อย/หรือยืนได้ ทำให้ SET น่าจะแข็งกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ผลประกอบการที่ออกมาของกลุ่มพลังงาน (เช่น TOP* ที่ออกเมื่อคืน) สูงกว่าที่ตลาดคาด และในสัปดาห์นี้ยังมีลุ้นประกาศข่าวรวมกิจการของ PTTCH* และ PTTAR* ซึ่งน่าจะทำให้กลุ่มพลังงานมีแรงซื้อกลับได้เร็ว
กลยุทธ์พอร์ตเทรดดิ้งให้รอดูที่แนวรับ 990 จุด และ 986 จุด ถ้าลงมาแล้วดูจะไม่หลุดแนะซื้อเก็งกำไรหุ้นพลังงานอย่าง PTT*, PTTCH* และ PTTAR* เพื่อขายออกช่วงตลาดรีบาวด์ ส่วนพอร์ตลงทุนแนะให้ถือหุ้นด้วยน้ำหนักเท่าเดิมไปก่อน เพื่อรอดูว่าสถานการณ์ในลิเบียจะพัฒนาไปอย่างไร จะลากยาวหรือจะจบได้เร็วเหมือนกรณีของอียิปต์






No comments:

Post a Comment