โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ไทยพาณิชย์ชี้จีนปรับค่าเงินหยวนให้เคลื่อนไหวยึดหยุ่นมากขึ้น กดดันค่าเงินบาทแข็งแตะที่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ ในสิ้นปีนี้
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปล่อยให้เงินหยวนเคลื่อนไหวได้ อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งสัญญาว่าจีนอาจเริ่มปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าหลังจากที่ตรึงค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์ไว้ตั้งแต่กรกฎาคม 2008
ทั้งนี้ เชื่อว่าการขยับของค่าเงินหยวนน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ธนาคารกลางของจีน (The People’s Bank of China) ประกาศเพิ่มความยืดหยุ่นของการเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนของจีน โดยให้ขยับได้ +/- 0.5% จากค่ากลาง (central parity) ในแต่ละวัน ซึ่งบ่งบอกว่าการตรึงค่าเงินหยวนน่าจะสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของจีนประกาศว่าจะดูแลค่าเงินไม่ให้เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง (excessive moves)
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินหยวนจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ครั้งที่แล้วที่จีนปล่อยค่าเงินหยวนให้แข็งค่า ค่าเงินบาทแข็งเร็วกว่าหยวน ระหว่าง ก.ค. 2005 – ก.ค. 2008 ที่จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 21% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (เฉลื่ยราว 7% ต่อปี) ในช่วงเดียวกันค่าเงินบาทแข็ง ค่าขึ้นราว 26% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในช่วงนั้นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับตระกร้าเงินสกุลต่างๆ (ถ่วงน้ำหนักโดยสัดส่วนการค้า หรือ US dollar trade-weighted index) ราว 18%
ทั้งนี้ ตลาดมองค่าเงินหยวนน่าจะแข็งค่าขึ้นไม่มากนัก จากผลการสำรวจนักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดว่าค่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นราว 2% ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ non-deliverable forward ระยะ 12 เดือนของค่าเงินหยวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นและบ่งบอกว่าตลาดคาดว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นราว 3% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ คงมุมมองว่า ค่าเงินบาทจะแข็งค่าเป็น 31 THB/USD ในปีนี้ เราคงมุมมองว่าค่าเงินบาทน่า จะแข็งค่าขึ้น โดยหนึ่งในสมมติฐานที่เราใช้ก็คือ จีนจะปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 3% ในปีนี้ ทั้งนี้ ปัจจัยหลักของการแข็งค่าของเงินบาทคือการอ่อนค่าของเงิน USD เทียบกับเงินสกุลหลักในเอเชีย และการไหลเข้าของเงินตราจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและการลงทุนโดยตรงจาก ต่างประเทศ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20100622/338853/
จีนปรับค่าเงินหยวน-ดันบาทแตะ31ในสิ้นปี
.htmlการเงิน - การลงทุน
วันที่ 7 มกราคม 2554 11:13
ธปท.ชี้จีนปรับค่าเงินหยวน ไม่กระทบค่าบาท
ผู้ว่าการธปท.ชี้จีนส่งสัญญาณปรับขึ้นค่าเงินหยวน ไม่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งโป๊ก เหตุปีที่ผ่านมาขึ้นมามาก เชื่อไม่กระทบส่งออก
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ทางการจีนส่งสัญญาณปรับขึ้นค่าเงินหยวน 5% ว่า เชื่อว่าอาจส่งกระทบกับการเคลื่อนไหวค่าเงินบาท และค่าเงินในภูมิภาคเอเซีย เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปรับค่าเงินหยวนของจีน จะไม่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าจนเกินค่าเงินหยวน เพราะในปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทได้ปรับตัวแข็งค่ามากแล้ว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็มีมุมมองว่าค่าเงินบาทของไทยในปีนี้ ไม่น่าจะแข็งค่ามากนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
"ถ้าหากค่าเงินบาทแข็ง ค่าขึ้นจริง ก็ไม่น่าจะกระทบการค้าขายกับต่างประเทศมากนัก เพราะในช่วงที่ผ่านมาไทยมีการค้าขายกับประเทศที่อยู่นอกกลุ่ม 3G มากกว่า 70% แล้ว"
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20110107/370704/ธปท.ชี้จีนปรับค่าเงินหยวน-ไม่กระทบค่าบาท.html
ตัวเลขดังกล่าวอาจจะมีสาเหตุมาจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงิน กู้และเงินฝากเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่จีนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักให้ควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งจีนอาจจะใช้เครื่องมือทั้งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยและการปรับค่า เงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น เพื่อควบคุมคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ทางการจีนส่งสัญญาณปรับขึ้นค่าเงินหยวน 5% ว่า เชื่อว่าอาจส่งกระทบกับการเคลื่อนไหวค่าเงินบาท และค่าเงินในภูมิภาคเอเซีย เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปรับค่าเงินหยวนของจีน จะไม่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าจนเกินค่าเงินหยวน เพราะในปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทได้ปรับตัวแข็งค่ามากแล้ว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็มีมุมมองว่าค่าเงินบาทของไทยในปีนี้ ไม่น่าจะแข็งค่ามากนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
"ถ้าหากค่าเงินบาทแข็ง ค่าขึ้นจริง ก็ไม่น่าจะกระทบการค้าขายกับต่างประเทศมากนัก เพราะในช่วงที่ผ่านมาไทยมีการค้าขายกับประเทศที่อยู่นอกกลุ่ม 3G มากกว่า 70% แล้ว"
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20110107/370704/ธปท.ชี้จีนปรับค่าเงินหยวน-ไม่กระทบค่าบาท.html
Analysis:เงินหยวนของจีนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น 3-5% ในปี 2554
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 11:27:21 น.
ค่ากลางของเงินหยวนของจีนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐถูกกำหนดให้อยู่ ที่ระดับ 6.5849 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากที่ตลาดปิดทำการเป็นเวลา 7 วันเนื่องในวันหยุดเทศกาลตรุษจีนตัวเลขดังกล่าวอาจจะมีสาเหตุมาจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงิน กู้และเงินฝากเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่จีนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักให้ควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งจีนอาจจะใช้เครื่องมือทั้งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยและการปรับค่า เงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น เพื่อควบคุมคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น
อันที่จริงแล้วแนวโน้มการแข็งค่าเร็วขึ้นของเงินหยวนเมื่อเทียบ กับดอลลาร์สหรัฐ ได้เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2554 แล้ว โดยเงินหยวนเคลื่อนตัวทะลุระดับ 6.6 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 ม.ค. และปรับตัวสูงขึ้นมาทำนิวไฮ 10 วัน จากจำนวนวันทำการ 19 วันเมื่อเดือนม.ค.
สำหรับแนวโน้มการแข็งค่าเร็วขึ้นของเงินหยวนเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ วงในมองว่าเป็นเพราะกลไกที่ครอบคลุมของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศ สำหรับภายในประเทศนั้น แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแข็งค่าของเงินหยวนอาจจะช่วยชดเชยแรงกดดันของเงินเฟ้อที่อาจ จะทำให้ราคาธัญพืช พลังงาน และวัตถุดิบในตลาดต่างประเทศสูงขึ้น
ภายใต้สถานการณ์ภายในและต่างประเทศในปัจจุบันนี้ ตลาดมองว่า เงินหยวนจะยังคงแข็งค่าขึ้นต่อไป แต่ก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในตลาดเรื่องความเร็วในการ แข็งค่าของเงินหยวน นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เงินหยวนจะแข็งค่า 3-6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ชู หงปิ่น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซี คาดการณ์ว่า เงินหยวนจะยังคงแข็งค่าอย่างช้าๆต่อไปในช่วง 3-5% ในปีนี้ แต่ในขณะที่ยอดเกินดุลการค้าจะลดลง อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนก็เคลื่อนตัวใกล้ระดับที่สมดุลของอัตราแลก เปลี่ยน เมื่อเปรียบเทียบกับระดับก่อนที่จะเกิดวิกฤติการเงิน และเงินหยวนก็ไม่ได้ถูกประเมินค่าต่ำเกินจริง ดังนั้น เงินหยวนอาจจะไม่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
รายงานของเจพี มอร์แกนล่าสุดระบุว่า การแข็งค่าของเงินหยวนจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเงินตราของจีนต่อ ไป และคาดการณ์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจะยังอยู่ที่ระดับประมาณ 6.3 หยวนต่อดอลลาร์ก่อนถึงช่วงสิ้นปีนี้ แต่การคาดการณ์เงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไป และ เงินหยวนอาจจะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
หม่า จุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยช์ แบงก์ เกรท ไชน่า รีเจียน มองว่า เงินหยวนน่าจะแข็งค่าที่อัตรา 5% ต่อปี และในภาวะดังกล่าวเท่านั้นที่จีนจะสามารถรับมือกับเงินเฟ้อจากต่างประ เทศ และชดเชยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้สกุลเงินหยวนอีก 5%
บล.ยูบีเอส สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และโนมูระ ต่างคาดการณ์ว่า เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น โดยคาดการณ์ว่า เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 6.2 หยวนต่อดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้
ทางยูบีเอสมองว่า แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากภายนอกมากขึ้น แต่จีนก็ยังไม่อยากทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเร็วนัก แต่ถึงกระนั้น รัฐบาลจีนก็อาจจะทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อลดแรงกดดันจากนานาประเทศ รวมถึงลดความเสี่ยงของนโยบายกีดกันทางการค้า
จีนได้เริ่มปล่อยเงินหยวนลอยตัว และอิงตามอุปทานในตลาดและตลาดเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2548 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ในการปฏิรูปอัตราแลก เปลี่ยนของเงินหยวน
เงินหยวนแข็งค่าขึ้นประมาณ 23.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมาตั้งแต่เดือนก.ค.2548 และแข็งค่าอีกประมาณ 3.72% ตั้งแต่ที่มีการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเมื่อเดือนมิ.ย. 2553
จากการคำนวณของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) อัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนในนามได้แข็งค่าขึ้นอีก 13.58% และอัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริงแข็งค่าขึ้นอีก 21.2% สำนักข่าวซินหัวรายงาน
No comments:
Post a Comment