Nithiwat Wannasiri
3 hours ago
ทั้งเพื่อนเป็น เพื่อนตาย สหายเอ๋ย
อย่าละเลย ความเป็นธรรม นำสู่เขา
จะยากดี มีจน คนเหมือนเรา
หากไม่เขา คงเป็นเรา ที่ล้มตาย
25เดือน ผ่านไป ไวเหมือนฝัน
ยังจำวัน ล้อมปราบ กำราบหมาย
เจ้าสั่งฆ่า พี่น้องเรา เหมือนวัวควาย
เจ้าชั่วร้าย ยังยิ้มได้ มานานปี
เจ้าสั่งขัง เพื่อเรา เอาเข้าคุก
เจ้าสร้างทุกข์ ให้ปวงชน คนหน่ายหนี
เจ้าอ้างแอบ ความชั่วช้า ว่า"ความดี"
เจ้าย่ำยี ไม่นึกถึง ซึ่งเมตตา
ใครจะปรอง ดองกับเจ้า ช่างเขาเถิด
ใครจะชู จะเชิด ช่างเถิดหนา
ข้ากับเจ้า ขาดกัน วันเจ้า"ฆ่า"
จะเร็วช้า ในวันหน้า ข้าเอาคืน!
รำลึก 25 เดือน เพื่อนถูกฆ่า ณ ราชประสงค์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=319315074820869&set=a.101154469970265.2055.100002271364703
3 hours ago
ทั้งเพื่อนเป็น เพื่อนตาย สหายเอ๋ย
อย่าละเลย ความเป็นธรรม นำสู่เขา
จะยากดี มีจน คนเหมือนเรา
หากไม่เขา คงเป็นเรา ที่ล้มตาย
25เดือน ผ่านไป ไวเหมือนฝัน
ยังจำวัน ล้อมปราบ กำราบหมาย
เจ้าสั่งฆ่า พี่น้องเรา เหมือนวัวควาย
เจ้าชั่วร้าย ยังยิ้มได้ มานานปี
เจ้าสั่งขัง เพื่อเรา เอาเข้าคุก
เจ้าสร้างทุกข์ ให้ปวงชน คนหน่ายหนี
เจ้าอ้างแอบ ความชั่วช้า ว่า"ความดี"
เจ้าย่ำยี ไม่นึกถึง ซึ่งเมตตา
ใครจะปรอง ดองกับเจ้า ช่างเขาเถิด
ใครจะชู จะเชิด ช่างเถิดหนา
ข้ากับเจ้า ขาดกัน วันเจ้า"ฆ่า"
จะเร็วช้า ในวันหน้า ข้าเอาคืน!
รำลึก 25 เดือน เพื่อนถูกฆ่า ณ ราชประสงค์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=319315074820869&set=a.101154469970265.2055.100002271364703
Kasian Tejapira
Subscribed · 4 hours ago
การโต้อภิวัฒน์ทางการเมืองวัฒนธรรมของเผด็จการทหารอาญาสิทธิ์สฤษดิ์: รื้อหมุด ๒๔ มิถุนายน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4182149314916&set=p.4182149314916
Subscribed · 4 hours ago
การโต้อภิวัฒน์ทางการเมืองวัฒนธรรมของเผด็จการทหารอาญาสิทธิ์สฤษดิ์: รื้อหมุด ๒๔ มิถุนายน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4182149314916&set=p.4182149314916
นายหนหวย หงุดหงิดรายวัน
5 hours ago
"ฆาตกร 98 ศพ" โผล่ เชียงใหม่ เจอมวลมหาประชาชนโห่ไล่ เผ่นป่าราบกลับกทม.
ข่าวสดออนไลน์
"ปชป."วงแตก-แดงเชียงใหม่ลุยตะโกนประณาม ชูป้ายไล่ "มาร์ค" หาเสียงชิงนายกอบจ.
วันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาช่วยนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ หาเสียงในการลงแข่งขันนายกอบจ.เชียงใหม่
โดยจุดแรก คณะของนายอภิสิทธิ์เดินทางมายังตรอกเมรุ หรือตรอกลาโจ๋ว ตลาดต้นลำไย ช่วงแรกๆ พ่อค้าแม่ค้าตามร้านค้าเห็นก็ยังให้การต้อนรับ และถ่ายรูปร่วม แต่พอนายอภิสิทธิ์พ้นตรอกดังกล่าวเพื่อจะเดินเข้าตลาดต้นลำไย ปรากฏว่า พ่อค้าแม่ค้าในตลาด รวมทั้งคนเสื้อแดงบางกลุ่มได้ตะโกนด่าสาปแช่งตลอดเส้นทาง บางรายใช้สีเมจิกเขียนใส่กระดาษเอ 4 ระบุว่า "กูไม่ได้มาเชียร์ แต่อยากมาดูหน้า--- และประทับตราตีนตบ นปช.เชียงใหม่" จนผู้ติดตามและการ์ดนายอภิสิทธิ์พยายามเข้ามากันพ่อค้าแม่ค้าที่มาตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ รวมทั้งตำรวจที่มาดูแลความเรียบร้อยและสงบ ก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ใกล้ชิด
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าบริเวณรอบตลาดอีก 20 เมตร เห็นท่าไม่ดี จึงยกเลิกการเดินเข้าไปในตลาดต้นลำไย และตลาดวโรรสทันที และคณะทั้งหมดก็เดินทางออกจากตลาดจุดแรกก่อนกำหนด พร้อมผู้สมัครนายกอบจ.และสมาชิก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME1EQTVOVFkxTUE9PQ%3D%3D
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=460266917318617&set=a.102862166392429.6369.100000059375272
5 hours ago
"ฆาตกร 98 ศพ" โผล่ เชียงใหม่ เจอมวลมหาประชาชนโห่ไล่ เผ่นป่าราบกลับกทม.
ข่าวสดออนไลน์
"ปชป."วงแตก-แดงเชียงใหม่ลุยตะโกนประณาม ชูป้ายไล่ "มาร์ค" หาเสียงชิงนายกอบจ.
วันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาช่วยนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ หาเสียงในการลงแข่งขันนายกอบจ.เชียงใหม่
โดยจุดแรก คณะของนายอภิสิทธิ์เดินทางมายังตรอกเมรุ หรือตรอกลาโจ๋ว ตลาดต้นลำไย ช่วงแรกๆ พ่อค้าแม่ค้าตามร้านค้าเห็นก็ยังให้การต้อนรับ และถ่ายรูปร่วม แต่พอนายอภิสิทธิ์พ้นตรอกดังกล่าวเพื่อจะเดินเข้าตลาดต้นลำไย ปรากฏว่า พ่อค้าแม่ค้าในตลาด รวมทั้งคนเสื้อแดงบางกลุ่มได้ตะโกนด่าสาปแช่งตลอดเส้นทาง บางรายใช้สีเมจิกเขียนใส่กระดาษเอ 4 ระบุว่า "กูไม่ได้มาเชียร์ แต่อยากมาดูหน้า--- และประทับตราตีนตบ นปช.เชียงใหม่" จนผู้ติดตามและการ์ดนายอภิสิทธิ์พยายามเข้ามากันพ่อค้าแม่ค้าที่มาตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ รวมทั้งตำรวจที่มาดูแลความเรียบร้อยและสงบ ก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ใกล้ชิด
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าบริเวณรอบตลาดอีก 20 เมตร เห็นท่าไม่ดี จึงยกเลิกการเดินเข้าไปในตลาดต้นลำไย และตลาดวโรรสทันที และคณะทั้งหมดก็เดินทางออกจากตลาดจุดแรกก่อนกำหนด พร้อมผู้สมัครนายกอบจ.และสมาชิก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME1EQTVOVFkxTUE9PQ%3D%3D
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=460266917318617&set=a.102862166392429.6369.100000059375272
Sujit Wongthes
Sunday
“ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา” ยังเป็นปัญหาในสังคมไทย แล้วคงต้องเป็นต่อไปตราบที่สังคมเห็นแก่ตัวและไม่สั่งสมรักษามีวินัยเคร่งครัด เห็นได้จากถนนจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น แล้วมีอุบัติเหตุเป็นปกติระหว่างรถยนต์กับรถไฟ จนมีคนตาย
เพราะความทันสมัยทำให้มีชุมชนหมู่บ้านกระจายไปตามทางรถไฟมากขึ้น จึงมีถนนตัดทางรถไฟเพิ่มขึ้น แต่หน่วยงานรับผิดชอบสร้างเครื่องกั้นไม่ทันจุดตัดที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น
อย่าว่าแต่ไม่มีเครื่องกั้นเลย แม้ที่มีครบถ้วนยังมีผู้ฝ่าฝืนเครื่องกั้น เพราะความเห็นแก่ตัว ไม่รักษาวินัย แล้วเกิดอุบัติเหตุล้มตายใหญ่หลวงบ่อยไป เช่นเดียวกับมหกรรมความตายทางรถยนต์ตอนปีใหม่และสงกรานต์
ประเทศทางโลกตะวันตกก็มีที่สร้างเครื่องกั้นไม่ทันจุดตัดถนนกับทางรถไฟ
แต่คนขับรถในสังคมตะวันตกรักษาวินัยเสมอภาคกัน รถทุกคันต้องจอดสนิทเมื่อถึงจุดตัดทางรถไฟ แล้วคนขับรถต้องเหลียวดูซ้าย-ขวาให้มั่นใจว่าไม่มีรถไฟมาแน่นอนแล้ว ถึงจะเข้าเกียร์เหยียบคันเร่งให้รถแล่นข้ามทางรถไฟอย่างรวดเร็ว
มีผู้บอกเล่าให้ฟังว่าเคยนั่งรถเกรย์ฮาวด์บัสในอเมริกาบนเส้นทางประจำไปกลับระยะทางราว 5 ชั่วโมง เมื่อไปเรียนหนังสือนานเป็นปี นอกจากคนขับต้องเหยียบเบรกจอดสนิทเมื่อถึงจุดตัดทางรถไฟแล้ว ยังต้องกดปุ่มเปิดประตูรถอัตโนมัติทุกครั้ง เพื่อเงี่ยหูฟังซ้าย-ขวาว่ามีรถไฟมาบ้างไหม?
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีถึงปิดประตูแล้วเข้าเกียร์เหยียบคันเร่งขับรถข้ามทางรถไฟ ทุกคันทำอย่างนี้เหมือนกันทุกครั้ง เพราะนั่งในรถเห็นเป็นปี
สังคมไทยสร้างความทันสมัยด้วยการซื้อเทคโนโลยีทั้งรถไฟและรถยนต์จากประเทศผู้ผลิตทางตะวันตก
ฝ่ายประเทศทางตะวันตกที่ขายรถไฟกับรถยนต์ให้ไทย เขาแถมวินัยการใช้รถใช้ถนนให้ด้วยฟรีๆไม่คิดเงิน แต่ไทยไม่หยิบมาด้วย เลยไม่พัฒนาความทันสมัยที่ซื้อมาราคาแพง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=307882915971451&set=a.104937836265961.8603.100002492350802
Sunday
“ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา” ยังเป็นปัญหาในสังคมไทย แล้วคงต้องเป็นต่อไปตราบที่สังคมเห็นแก่ตัวและไม่สั่งสมรักษามีวินัยเคร่งครัด เห็นได้จากถนนจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น แล้วมีอุบัติเหตุเป็นปกติระหว่างรถยนต์กับรถไฟ จนมีคนตาย
เพราะความทันสมัยทำให้มีชุมชนหมู่บ้านกระจายไปตามทางรถไฟมากขึ้น จึงมีถนนตัดทางรถไฟเพิ่มขึ้น แต่หน่วยงานรับผิดชอบสร้างเครื่องกั้นไม่ทันจุดตัดที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น
อย่าว่าแต่ไม่มีเครื่องกั้นเลย แม้ที่มีครบถ้วนยังมีผู้ฝ่าฝืนเครื่องกั้น เพราะความเห็นแก่ตัว ไม่รักษาวินัย แล้วเกิดอุบัติเหตุล้มตายใหญ่หลวงบ่อยไป เช่นเดียวกับมหกรรมความตายทางรถยนต์ตอนปีใหม่และสงกรานต์
ประเทศทางโลกตะวันตกก็มีที่สร้างเครื่องกั้นไม่ทันจุดตัดถนนกับทางรถไฟ
แต่คนขับรถในสังคมตะวันตกรักษาวินัยเสมอภาคกัน รถทุกคันต้องจอดสนิทเมื่อถึงจุดตัดทางรถไฟ แล้วคนขับรถต้องเหลียวดูซ้าย-ขวาให้มั่นใจว่าไม่มีรถไฟมาแน่นอนแล้ว ถึงจะเข้าเกียร์เหยียบคันเร่งให้รถแล่นข้ามทางรถไฟอย่างรวดเร็ว
มีผู้บอกเล่าให้ฟังว่าเคยนั่งรถเกรย์ฮาวด์บัสในอเมริกาบนเส้นทางประจำไปกลับระยะทางราว 5 ชั่วโมง เมื่อไปเรียนหนังสือนานเป็นปี นอกจากคนขับต้องเหยียบเบรกจอดสนิทเมื่อถึงจุดตัดทางรถไฟแล้ว ยังต้องกดปุ่มเปิดประตูรถอัตโนมัติทุกครั้ง เพื่อเงี่ยหูฟังซ้าย-ขวาว่ามีรถไฟมาบ้างไหม?
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีถึงปิดประตูแล้วเข้าเกียร์เหยียบคันเร่งขับรถข้ามทางรถไฟ ทุกคันทำอย่างนี้เหมือนกันทุกครั้ง เพราะนั่งในรถเห็นเป็นปี
สังคมไทยสร้างความทันสมัยด้วยการซื้อเทคโนโลยีทั้งรถไฟและรถยนต์จากประเทศผู้ผลิตทางตะวันตก
ฝ่ายประเทศทางตะวันตกที่ขายรถไฟกับรถยนต์ให้ไทย เขาแถมวินัยการใช้รถใช้ถนนให้ด้วยฟรีๆไม่คิดเงิน แต่ไทยไม่หยิบมาด้วย เลยไม่พัฒนาความทันสมัยที่ซื้อมาราคาแพง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=307882915971451&set=a.104937836265961.8603.100002492350802
กุหลาบ ปากซัน
15 hours ago
ศิษย์ออกซ์ฟอร์ด
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สับไก กระสุนธรรม
เขียนถึง ออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้านพม่าอีกครั้ง หลังกล่าวสุนทรพจน์รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ประทับใจผู้คน ด้วยเนื้อหาที่มีความหมายต่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
ทั้งในด้านอุดมการณ์และแนวทางปฏิบัติ
ข้อความที่กล่าวนั้นสังเกตได้ว่ามาจากประสบการณ์ตรง จึงไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู
คนภายนอกรับรู้ว่า รางวัลนี้ไม่ได้มีคุณค่าต่อนางซู จี เท่านั้น แต่นางซู จี ก็มีคุณค่าต่อรางวัลด้วย
เรื่องน่าสังเกตจากสุนทรพจน์ของนางซู จี ก็คือ แม้จะเป็นถ้อยคำของผู้นำฝ่ายค้าน แต่ไม่มีแม้แต่ประโยคเดียวที่เสียดสี โจมตีรัฐบาลพม่า ไม่ว่ารัฐบาลทหารหรือรัฐบาลพลเรือน
ข้อเรียกร้องถึงการผลักดันสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย หรือกระบวนการปรองดองนั้น ระบุว่าเพื่อประเทศพม่าโดยรวม และโลกทั้งมวล
ไม่ได้แบ่งแยกว่ามี "พม่าดี" หรือ "พม่าเลว"
ส่วนภาษาอังกฤษของนางซู จี นั้น ดีเลิศสมกับเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือไม่ได้พูดถึงแต่ตัวเอง หากพูดถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ นักโทษการเมือง แรงงานพม่าในไทย ผู้อพยพ ชนกลุ่มน้อย ที่อยากให้โลกนึกถึงคนเหล่านี้ให้มากๆ และร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้
น่าดีใจแทนพม่าที่มีหัว หน้าฝ่ายค้านแบบนี้
กล่าวคือจิตใจสูงส่งแต่ไม่เหยียบย่ำผู้อื่น ไม่เคียดแค้น แม้แต่ผู้ที่เคยจับตนเองขังไว้ในบ้านนานรวมกว่า 15 ปี
กลับหาจุดร่วมที่เป็นปัจจัยปรองดองให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
หากจะคิดไปว่า นางซู จี เลี่ยงพูดไม่ดีต่อรัฐบาลพม่า เพราะกลัวจะกลับประเทศไม่ได้ ก็คงไม่ใช่
เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมานั้นสะท้อนถึงอุดมการณ์และวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ แม้จะไม่ได้เป็นผู้นำรัฐบาลก็ตาม
ไม่ใช่ว่าใครที่จบออกซ์ฟอร์ดแล้วจะเป็นอย่างนี้ได้
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=333202606757128&set=a.137354946341896.33865.100002021732863
15 hours ago
ศิษย์ออกซ์ฟอร์ด
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สับไก กระสุนธรรม
เขียนถึง ออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้านพม่าอีกครั้ง หลังกล่าวสุนทรพจน์รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ประทับใจผู้คน ด้วยเนื้อหาที่มีความหมายต่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
ทั้งในด้านอุดมการณ์และแนวทางปฏิบัติ
ข้อความที่กล่าวนั้นสังเกตได้ว่ามาจากประสบการณ์ตรง จึงไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู
คนภายนอกรับรู้ว่า รางวัลนี้ไม่ได้มีคุณค่าต่อนางซู จี เท่านั้น แต่นางซู จี ก็มีคุณค่าต่อรางวัลด้วย
เรื่องน่าสังเกตจากสุนทรพจน์ของนางซู จี ก็คือ แม้จะเป็นถ้อยคำของผู้นำฝ่ายค้าน แต่ไม่มีแม้แต่ประโยคเดียวที่เสียดสี โจมตีรัฐบาลพม่า ไม่ว่ารัฐบาลทหารหรือรัฐบาลพลเรือน
ข้อเรียกร้องถึงการผลักดันสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย หรือกระบวนการปรองดองนั้น ระบุว่าเพื่อประเทศพม่าโดยรวม และโลกทั้งมวล
ไม่ได้แบ่งแยกว่ามี "พม่าดี" หรือ "พม่าเลว"
ส่วนภาษาอังกฤษของนางซู จี นั้น ดีเลิศสมกับเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือไม่ได้พูดถึงแต่ตัวเอง หากพูดถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ นักโทษการเมือง แรงงานพม่าในไทย ผู้อพยพ ชนกลุ่มน้อย ที่อยากให้โลกนึกถึงคนเหล่านี้ให้มากๆ และร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้
น่าดีใจแทนพม่าที่มีหัว หน้าฝ่ายค้านแบบนี้
กล่าวคือจิตใจสูงส่งแต่ไม่เหยียบย่ำผู้อื่น ไม่เคียดแค้น แม้แต่ผู้ที่เคยจับตนเองขังไว้ในบ้านนานรวมกว่า 15 ปี
กลับหาจุดร่วมที่เป็นปัจจัยปรองดองให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
หากจะคิดไปว่า นางซู จี เลี่ยงพูดไม่ดีต่อรัฐบาลพม่า เพราะกลัวจะกลับประเทศไม่ได้ ก็คงไม่ใช่
เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมานั้นสะท้อนถึงอุดมการณ์และวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ แม้จะไม่ได้เป็นผู้นำรัฐบาลก็ตาม
ไม่ใช่ว่าใครที่จบออกซ์ฟอร์ดแล้วจะเป็นอย่างนี้ได้
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=333202606757128&set=a.137354946341896.33865.100002021732863
Pegasusfire Michael
เว็บนอกแพร่บทความ10เทคนิคสู่การแสร้งให้ดูเป็นชาวกรุงเทพฯโดยกำเนิด
เว็บไซต์ด้านศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย CNNGO
ได้นำเสนอบทความแนะนำนักท่องเที่ยว10 เทคนิคและวิธีการง่ายๆ
ที่จะทำให้คุณดูเหมือนเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด โดยบทความดังกล่าว
นำเสนอว่า ชาวกรุงทั้งหลายถูกตัดสินจากคนภายนอกที่มองเข้ามา
ด้วยทัศนคติความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนาน อันที่จริงแล้ว ทุกคนไม่ได้ทำงาน
อยู่ในบาร์เพียงอย่างเดียว และไม่ได้เป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดที่ไปวัดทุกเช้า
และในบางครั้งก็ไม่ได้ยิ้ม
เทคนิคที่นำมาเสนอนี้เป็น ลักษณะของวัยรุ่นชาวกรุงเทพฯ
ส่วนจะใช่หรือไม่ คนไทยลองอ่านดู
1.วิธีการขึ้นบันไดเลื่อน
ในบางเมืองที่ประเทศอื่นๆ ผู้โดยสารจะยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของบันไดเลื่อน
เพื่อให้ผู้ที่เร่งรีบสามารถเดินลงได้อย่างรวดเร็วแต่คุณไม่จำต้องทำเช่นนั้น
ที่กรุงเทพฯเพราะไม่มีใครเร่งรีบหรอกดังนั้นจงยืนอยู่ตรงกลางของบันไดซะเลย!
2.จะสำรวจเมืองนี้ให้ทั่วได้อย่างไร
หากคุณไม่ได้แบกผักจำนวนมากมายมหาศาลคุณก็คงไม่คิดที่จะนั่งตุ๊ก-ตุ๊ก
จงไปเยือนสถานที่ต่างๆด้วยรถยนต์แม้ว่าสถานีบีทีเอสจะอยู่ห่างจาก
ที่ๆคุณอยู่ไม่ถึงระยะช่วงตึก
จงขับรถหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่ อะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณหลีกเลี่ยงการเจอกับ
แสงแดดและความร้อน แม้ว่านั่นจะหมายถึงการต้องติดอยู่บนถนน
ที่การจราจรติดขัดเป็นเวลา 2ชั่วโมง ก็ตาม
3.วิธีการตั้งชื่อของตนเอง
ไม่มีใครในกรุงเทพฯ หรือกระทั่งในประเทศไทยเรียกชื่อจริงของแต่ละคนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่มีชื่อยาว เราจึงเรียกชื่อเล่นกัน
และชื่อรถก็มักจะถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเล่น เช่น “เบนซ์” หรือหากคุณชอบกิน
แอปเปิ้ล ลูกของคุณอาจมีชื่อว่า “แอปเปิ้ล” เป็นต้น
4.วิธีการสื่อสาร
ทุกๆ คนเป็นครอบครัวเดียวกัน พนักงานหญิงสาวเป็นญาติพี่น้องกับคุณ
(เพราะคุณเรียกเธอว่าน้อง) คนขับแท็กซี่เป็นคุณลุงของคุณ
(เพราะคุณเรียกเขาว่าลุง) และผู้หญิงที่ขายผัดไทยก็เป็นคุณป้าของคุณ
การไหว้ของคนไทยเป็นวัฒนธรรมที่ดีในการ ทักทาย และการพูดขอบคุณ
ก็เป็นวิธีการที่ดีเช่นกัน แต่คุณไม่ต้องไหว้กับทุกๆ คนก็ได้
คนท้องถิ่นมักคิดว่าเมื่อเวลาที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไหว้เช่นนั้นเป็น
สิ่งที่แลดูน่ารัก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสัญลักษณ์ของการบอกว่า
คุณเป็นคนที่ไม่ประสีประสา
นอกจากนี้ เวลาส่งข้อความหรือคอมเมนท์ในเฟซบุค คนไทยมักใช้ 555
แทนเสียงหัวเราะ เพราะเลข 5 ในภาษาไทยอ่านว่า ห้า นึกออกไหม
มันดูตลกดีนะ 555 (five five five)
5.วิธีการจัดการเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ยากๆ
ถ้าคุณเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นในออฟฟิศ เช่น ไปเหยียบเท้าคนอื่นเข้าให้?
หรือไม่รู้คำตอบของคำถาม? …
จงอย่าได้ยอมรับว่านั่นเป็นความผิดของคุณเด็ดขาด เ
พราะนั่นเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่จงแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจซะ
6.วิธีการดื่ม
เดินเข้าไปที่บาร์เพื่อหาไวน์ดื่ม คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักอะไรมากมาย
เกี่ยวกับไวน์ แค่เพียงสั่งไวน์ชื่อแปลกๆ มาดื่มก็พอ
ก่อนดื่มอย่าลืมหมุนวนแก้วและสูดกลิ่นพร้อมออกเสียงกระซิบกระซาบว่า
“อืมมมมมม นี่เป็นไวน์ที่ดีทีเดียว”
7.หนทางสู่การเป็นผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินดี
ในประเทศไทย ผิวขาวใสนั้นเป็นเสมือนรางวัลชนะเลิศ ดังนั้น
จงพกร่มติดตัวตลอดเวลาเพื่อให้มั่นใจได้ว่า รังสีจากแสงอาทิตย์
จะไม่มีวันเยื้องกรายเข้าสู่อนุภาคผิวหนังของคุณ
หากคุณไม่มีร่ม ก็หาหนังสือหรือกระเป๋าปิดหน้าปิดตาเวลาที่เดินข้ามถนน
จงลงทุนกับครีมไวเทนนิ่งให้มาก เข้าไว้ ทาโรลออนระงับกลิ่นกาย
ที่ทำให้วงแขนของคุณขาวใส และปกปิดร่างกายจากแสงแดด
ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
8.วิธีการใช้รถไฟฟ้า BTS
คุณอาจรอคิวอยู่ที่หลังเส้นสีเหลืองอย่างเรียบร้อยเพื่อรอรถไฟฟ้า BTS
แต่เมื่อรถมาถึง ไม่ต้องรอให้ผู้โดยสารบนรถออกมาจากรถไฟ
แต่จงแทรกตัวเข้าไปเลยผลักทุกคนที่ขวางทางเพื่อที่จะได้เข้าไป
ในขบวนรถไฟ เป็นคนแรก
และถ้าหากไม่มีที่นั่ง จงหาผนังโล่งๆ เพื่อที่จะให้ร่างกายของคุณทั้งหมด
ได้พิงตัวอย่างมั่นคง ไม่ต้องใส่ใจว่าบริเวณนั้นจะมีผู้คนจับหรือโหนอยู่หรือไม่
เพราะความสะดวกสบายของคุณเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
9.วิธีการเลือกร้านอาหาร
อาหารตามข้างถนนนั้นเป็นตัวเลือกที่ยอมรับได้สำหรับชาวกรุงหากคุณเป็น
1. เด็กนักเรียน
2. หากคุณเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีเวลารับประทานอาหารกลางวันเพียง 1 ชม.
3. เมื่อคุณเมาในช่วงเวลาตอนตีสอง
หรือมิฉะนั้น ก็จงหาร้านอาหารที่ดูแพง พร้อมการตกแต่งที่สวยงาม
ที่เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศส/ อิตาเลียน/ ญี่ปุ่น/ ไทยฟิวชั่น และที่ๆ ผู้คนนิยมไป
กันมากก็คือบริเวณทองหล่อ “Community mall”
10. วิธีการแต่งกาย
ผู้ชายต้องสวมเสื้อเชิ้ตโปโล (อาจเป็นยี่ห้อ Ralph Lauren, Paul Smith
หรือ Comme des Garçons) สวมกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ
ผู้หญิงต้องเลือกนักร้องวง K-Pop ที่ชื่นชอบมาสักวง
แล้วพยายามแต่งกายเลียนแบบหนึ่งในสมาชิกวงนั้นๆ
แม้ว่าการศัลยกรรมพลาสติกจะไม่ได้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วๆ ไปในกรุงเทพฯ เ
หมือนที่เกาหลีใต้ แต่เราก็กำลังพัฒนาไปสู่ระดับนั้น
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กระเป๋าราคาแพงไม่ว่าจะเป็น Chanel, Mulberry,
Hermès, Louis Vuitton หรือ Coach ที่มาพร้อมกับไอแพดสีชมพูแปร๊ด!
ที่มา CNNGO
เรียบเรียงโดย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=237248659728423&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
เว็บนอกแพร่บทความ10เทคนิคสู่การแสร้งให้ดูเป็นชาวกรุงเทพฯโดยกำเนิด
เว็บไซต์ด้านศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย CNNGO
ได้นำเสนอบทความแนะนำนักท่องเที่ยว10 เทคนิคและวิธีการง่ายๆ
ที่จะทำให้คุณดูเหมือนเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด โดยบทความดังกล่าว
นำเสนอว่า ชาวกรุงทั้งหลายถูกตัดสินจากคนภายนอกที่มองเข้ามา
ด้วยทัศนคติความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนาน อันที่จริงแล้ว ทุกคนไม่ได้ทำงาน
อยู่ในบาร์เพียงอย่างเดียว และไม่ได้เป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดที่ไปวัดทุกเช้า
และในบางครั้งก็ไม่ได้ยิ้ม
เทคนิคที่นำมาเสนอนี้เป็น ลักษณะของวัยรุ่นชาวกรุงเทพฯ
ส่วนจะใช่หรือไม่ คนไทยลองอ่านดู
1.วิธีการขึ้นบันไดเลื่อน
ในบางเมืองที่ประเทศอื่นๆ ผู้โดยสารจะยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของบันไดเลื่อน
เพื่อให้ผู้ที่เร่งรีบสามารถเดินลงได้อย่างรวดเร็วแต่คุณไม่จำต้องทำเช่นนั้น
ที่กรุงเทพฯเพราะไม่มีใครเร่งรีบหรอกดังนั้นจงยืนอยู่ตรงกลางของบันไดซะเลย!
2.จะสำรวจเมืองนี้ให้ทั่วได้อย่างไร
หากคุณไม่ได้แบกผักจำนวนมากมายมหาศาลคุณก็คงไม่คิดที่จะนั่งตุ๊ก-ตุ๊ก
จงไปเยือนสถานที่ต่างๆด้วยรถยนต์แม้ว่าสถานีบีทีเอสจะอยู่ห่างจาก
ที่ๆคุณอยู่ไม่ถึงระยะช่วงตึก
จงขับรถหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่ อะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณหลีกเลี่ยงการเจอกับ
แสงแดดและความร้อน แม้ว่านั่นจะหมายถึงการต้องติดอยู่บนถนน
ที่การจราจรติดขัดเป็นเวลา 2ชั่วโมง ก็ตาม
3.วิธีการตั้งชื่อของตนเอง
ไม่มีใครในกรุงเทพฯ หรือกระทั่งในประเทศไทยเรียกชื่อจริงของแต่ละคนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่มีชื่อยาว เราจึงเรียกชื่อเล่นกัน
และชื่อรถก็มักจะถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเล่น เช่น “เบนซ์” หรือหากคุณชอบกิน
แอปเปิ้ล ลูกของคุณอาจมีชื่อว่า “แอปเปิ้ล” เป็นต้น
4.วิธีการสื่อสาร
ทุกๆ คนเป็นครอบครัวเดียวกัน พนักงานหญิงสาวเป็นญาติพี่น้องกับคุณ
(เพราะคุณเรียกเธอว่าน้อง) คนขับแท็กซี่เป็นคุณลุงของคุณ
(เพราะคุณเรียกเขาว่าลุง) และผู้หญิงที่ขายผัดไทยก็เป็นคุณป้าของคุณ
การไหว้ของคนไทยเป็นวัฒนธรรมที่ดีในการ ทักทาย และการพูดขอบคุณ
ก็เป็นวิธีการที่ดีเช่นกัน แต่คุณไม่ต้องไหว้กับทุกๆ คนก็ได้
คนท้องถิ่นมักคิดว่าเมื่อเวลาที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไหว้เช่นนั้นเป็น
สิ่งที่แลดูน่ารัก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสัญลักษณ์ของการบอกว่า
คุณเป็นคนที่ไม่ประสีประสา
นอกจากนี้ เวลาส่งข้อความหรือคอมเมนท์ในเฟซบุค คนไทยมักใช้ 555
แทนเสียงหัวเราะ เพราะเลข 5 ในภาษาไทยอ่านว่า ห้า นึกออกไหม
มันดูตลกดีนะ 555 (five five five)
5.วิธีการจัดการเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ยากๆ
ถ้าคุณเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นในออฟฟิศ เช่น ไปเหยียบเท้าคนอื่นเข้าให้?
หรือไม่รู้คำตอบของคำถาม? …
จงอย่าได้ยอมรับว่านั่นเป็นความผิดของคุณเด็ดขาด เ
พราะนั่นเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่จงแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจซะ
6.วิธีการดื่ม
เดินเข้าไปที่บาร์เพื่อหาไวน์ดื่ม คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักอะไรมากมาย
เกี่ยวกับไวน์ แค่เพียงสั่งไวน์ชื่อแปลกๆ มาดื่มก็พอ
ก่อนดื่มอย่าลืมหมุนวนแก้วและสูดกลิ่นพร้อมออกเสียงกระซิบกระซาบว่า
“อืมมมมมม นี่เป็นไวน์ที่ดีทีเดียว”
7.หนทางสู่การเป็นผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินดี
ในประเทศไทย ผิวขาวใสนั้นเป็นเสมือนรางวัลชนะเลิศ ดังนั้น
จงพกร่มติดตัวตลอดเวลาเพื่อให้มั่นใจได้ว่า รังสีจากแสงอาทิตย์
จะไม่มีวันเยื้องกรายเข้าสู่อนุภาคผิวหนังของคุณ
หากคุณไม่มีร่ม ก็หาหนังสือหรือกระเป๋าปิดหน้าปิดตาเวลาที่เดินข้ามถนน
จงลงทุนกับครีมไวเทนนิ่งให้มาก เข้าไว้ ทาโรลออนระงับกลิ่นกาย
ที่ทำให้วงแขนของคุณขาวใส และปกปิดร่างกายจากแสงแดด
ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
8.วิธีการใช้รถไฟฟ้า BTS
คุณอาจรอคิวอยู่ที่หลังเส้นสีเหลืองอย่างเรียบร้อยเพื่อรอรถไฟฟ้า BTS
แต่เมื่อรถมาถึง ไม่ต้องรอให้ผู้โดยสารบนรถออกมาจากรถไฟ
แต่จงแทรกตัวเข้าไปเลยผลักทุกคนที่ขวางทางเพื่อที่จะได้เข้าไป
ในขบวนรถไฟ เป็นคนแรก
และถ้าหากไม่มีที่นั่ง จงหาผนังโล่งๆ เพื่อที่จะให้ร่างกายของคุณทั้งหมด
ได้พิงตัวอย่างมั่นคง ไม่ต้องใส่ใจว่าบริเวณนั้นจะมีผู้คนจับหรือโหนอยู่หรือไม่
เพราะความสะดวกสบายของคุณเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
9.วิธีการเลือกร้านอาหาร
อาหารตามข้างถนนนั้นเป็นตัวเลือกที่ยอมรับได้สำหรับชาวกรุงหากคุณเป็น
1. เด็กนักเรียน
2. หากคุณเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีเวลารับประทานอาหารกลางวันเพียง 1 ชม.
3. เมื่อคุณเมาในช่วงเวลาตอนตีสอง
หรือมิฉะนั้น ก็จงหาร้านอาหารที่ดูแพง พร้อมการตกแต่งที่สวยงาม
ที่เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศส/ อิตาเลียน/ ญี่ปุ่น/ ไทยฟิวชั่น และที่ๆ ผู้คนนิยมไป
กันมากก็คือบริเวณทองหล่อ “Community mall”
10. วิธีการแต่งกาย
ผู้ชายต้องสวมเสื้อเชิ้ตโปโล (อาจเป็นยี่ห้อ Ralph Lauren, Paul Smith
หรือ Comme des Garçons) สวมกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ
ผู้หญิงต้องเลือกนักร้องวง K-Pop ที่ชื่นชอบมาสักวง
แล้วพยายามแต่งกายเลียนแบบหนึ่งในสมาชิกวงนั้นๆ
แม้ว่าการศัลยกรรมพลาสติกจะไม่ได้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วๆ ไปในกรุงเทพฯ เ
หมือนที่เกาหลีใต้ แต่เราก็กำลังพัฒนาไปสู่ระดับนั้น
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กระเป๋าราคาแพงไม่ว่าจะเป็น Chanel, Mulberry,
Hermès, Louis Vuitton หรือ Coach ที่มาพร้อมกับไอแพดสีชมพูแปร๊ด!
ที่มา CNNGO
เรียบเรียงโดย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=237248659728423&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
Pegasusfire Michael
รอเขาไปบินแถว อรุณอมรินทร์ ฮะ
นกแสก กาก้า อิ อิ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=237246109728678&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
รอเขาไปบินแถว อรุณอมรินทร์ ฮะ
นกแสก กาก้า อิ อิ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=237246109728678&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
Kasian Tejapira
การโต้อภิวัฒน์ทางการเมืองวัฒนธรรมของเผด็จการทหารอาญาสิทธิ์สฤษดิ์: ยกเลิกวันชาติ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4182166835354&set=p.4182166835354
การโต้อภิวัฒน์ทางการเมืองวัฒนธรรมของเผด็จการทหารอาญาสิทธิ์สฤษดิ์: ยกเลิกวันชาติ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4182166835354&set=p.4182166835354
Pegasusfire Michael
มายืนชิดขวา…เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนกันเถอะ
(ส่วนตัวเกลียดมาก ที่คนไทยยืนกันเกะกะ ต้องยืน หรือ ต้องเดิน
เป็นหน้ากระดานกันทั้งกลุ่ม ขวางทางชาวบ้านทั่วไป
เพิ่งเห็นว่ามีการรณรงค์ ขอช่วยอีกคน)
นับว่าเป็นเวลาปีเศษ ๆ แล้วที่เพจ “คนไทยขึ้นบันไดยืนชิดขวา”www.facebook.com/StandOnTheRight ได้ถูกสร้างขึ้นมาบน
Facebook เพจนี้เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของ
ชาว Social Network ซึ่งต่างเห็นพ้องกันว่า น่าจะถึงเวลาแล้ว
ที่เราจะเปลี่ยนนิสัยคนไทยเสียใหม่
ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างเช่น “ยืนชิดขวา” เวลาที่เราใช้บันไดเลื่อน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=237239526396003&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
มายืนชิดขวา…เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนกันเถอะ
(ส่วนตัวเกลียดมาก ที่คนไทยยืนกันเกะกะ ต้องยืน หรือ ต้องเดิน
เป็นหน้ากระดานกันทั้งกลุ่ม ขวางทางชาวบ้านทั่วไป
เพิ่งเห็นว่ามีการรณรงค์ ขอช่วยอีกคน)
นับว่าเป็นเวลาปีเศษ ๆ แล้วที่เพจ “คนไทยขึ้นบันไดยืนชิดขวา”www.facebook.com/StandOnTheRight ได้ถูกสร้างขึ้นมาบน
Facebook เพจนี้เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของ
ชาว Social Network ซึ่งต่างเห็นพ้องกันว่า น่าจะถึงเวลาแล้ว
ที่เราจะเปลี่ยนนิสัยคนไทยเสียใหม่
ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างเช่น “ยืนชิดขวา” เวลาที่เราใช้บันไดเลื่อน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=237239526396003&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
No comments:
Post a Comment