H-2010.05.01
No quick fix for diabetes risk
Researchers said the results showed the only way to ensure future health in people at high risk of diabetes was exercise and a healthy diet.The most successful treatment high risk diabetes is diet and exercise. Losing 5% BW make a dramatic difference....http://bit.ly/aksQMu #BBC
ฉี่–ใครว่าไม่สำคัญ (4) โรคซึ่งเกี่ยวกับฉี่
วันนี้ขอพูดถึงโรคต่างๆซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องฉี่
เริ่มด้วยโรคซึ่งใครๆรู้จักกันดี มาคุยกันก่อน โรคนั้นก็คือ "เบาหวาน"
" เบาหวาน" นั้น โดยทั่วไปมักจะเอาเรื่องน้ำตาลในเลือดเป็นเกณฑ์ ถ้าไปหาคุณหมอลองให้ตรวจเลือดให้ ถ้าน้ำตาลในเลือดของคุณอยู่ในเกณฑ์ตั้งแต่ 110-125 mg/dl ท่านก็จะบอกว่าคุณมีโอกาสเริ่มจะเป็นเบาหวาน ต้องระวังตัว
ถ้าเกิน 125 mg ขึ้นไป และบางครั้งก็เลย 125 จนจะถึง 150 mg ท่านก็คงต้องให้ยาเบาหวานซึ่งเป็นยากดน้ำตาลในเลือดของคุณให้ลดลง
นั่นเป็นคำนำย่อๆของการเป็นเบาหวาน ซึ่งก็คือยึดเอาเรื่องน้ำตาลในเลือดซึ่งสูงผิดปกติเป็นเกณฑ์
แต่ เบาหวานไม่ใช่เรื่องของน้ำตาลในเลือดอย่างเดียว แต่ยังมีอาการอื่นๆนอกจากน้ำตาลมาผสมด้วยหลายอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง ปวดเมื่อยตามตัวตามัว อ่อนเพลีย แถมยังมีอาการคล้ายๆคนเป็นโรคหัวใจรวมอยู่ด้วย
และในอาการนอกเหนือไปหลายๆอย่างนี้ ก็แถมด้วยอาการของการกระหายน้ำและปัสสาวะบ่อยเป็นประจำรวมด้วยเช่นกัน
หลายคนที่เป็นเบาหวานหรือมีอาการแบบจะเริ่มเบาหวานอย่างอ่อนๆ อาจจะยังไม่เคยคิดมาเลยว่าตัวเองจะเป็นเบาหวาน
พอ มีอาการกระหายน้ำมากๆ และปัสสาวะบ่อยๆรวมทั้งอ่อนเพลียมากโดยหาสาเหตุไม่พบก็มักจะคิดว่าตนเองมี ปัญหาเกี่ยวกับไตหรือบางทีคงดื่มน้ำไม่พอในวันหนึ่งๆ
พอคิดว่าดื่ม น้ำไม่พอ ก็เลยดื่มน้ำเพิ่มเป็นการใหญ่ บางท่านเชื่อคำร่ำลือที่ว่าดื่มน้ำมากๆรักษาโรคได้ ก็เลยดื่มน้ำวันละ 3-5 ลิตร จนกระทั่งเกิดอาการตัวบวมและไตวายดังที่เล่าให้ฟังเมื่อตอนต้นๆของบทความ เรื่องฉี่นี้
เพราะฉะนั้น เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเพราะไม่รู้ว่าตนเองเป็นเบาหวาน แต่กลับไปแก้ด้วยการกินน้ำมากๆ ก็เลยทำให้ฉี่มากๆ และทำให้เกิดอาการไตวายได้อย่างนี้แหละครับ
ขออธิบายย่อๆก่อนว่า ทำไมจึงปัสสาวะบ่อยเมื่อเป็นเบาหวาน
หน้าที่ของไตโดยตรงคือ
1. ระบายของสกปรกหรือสิ่งที่มีเกินความต้องการของร่างกายออกไป
2. รักษาสิ่งที่มีประโยชน์ไว้ไม่ให้ออกไปกับสิ่งสกปรกอื่นๆ
3. เมื่อรักษาสิ่งมีประโยชน์ไว้แล้ว ก็ต้องเก็บรักษาสิ่งที่มีประโยชน์ไว้ตามอวัยวะต่างๆให้ถูกต้องตามที่ของมันด้วย
ฉะนั้น เมื่อมีน้ำตาลในเลือดเกินขีดปกติ ไตก็ต้องทำหน้าที่ร่วมกับตับอ่อน เมื่อน้ำตาลสูง ตับอ่อนต้องสร้างฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มขึ้นเพื่อลดน้ำตาล และไตก็ต้องทำหน้าที่ระบายน้ำตาลซึ่งสูงเกินควรออกทางปัสสาวะด้วย
อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมองและระบบประสาทโดยตรง นั่นก็คือเรื่องของการกระหายน้ำ
สมอง มีต่อมหรือปุ่มที่ควบคุมความรู้สึกกระหายน้ำของคนเรา หลักง่ายๆของร่างกายก็คือ ถ้าเราถ่ายน้ำออกจากร่างกายมาก จะเป็นการปัสสาวะหรือเหงื่อออกก็ดี น้ำออกไปมาก ร่างกายก็แห้ง
ร่างกายต้องการความสมดุลระหว่างน้ำกับเนื้อในร่างกายเรา เมื่อน้ำออกจากร่างกายมากเกินไป (ปัสสาวะ/เหงื่อ) เกลือในตัวเราก็จะเข้มข้นขึ้น ตัวอวัยวะบางตัวซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดความเข้มข้นของเกลือ ก็จะเตือนไปที่ระบบเส้นเลือดและหัวใจ (CARDIOVASCULAR SYSTEM) ระบบนี้จะเตือนไปที่เซลล์ส่วนหนึ่งของไฮโปทาลามัส (HYPOTHALAMUS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองส่วนกลาง
ไฮโปทาลามัสก็จะเตือนไปที่ต่อมพิทูอิทารี (ต่อมใต้สมอง)
ต่อมนี้ก็จะหลั่งฮอร์โมน ANTIDIURETIC HORMONE หรือเรียกสั้นๆว่า ADH ออกมา
เจ้า ADH นี้ก็จะไปออกฤทธิ์กับไต ซึ่งจะหลั่งเอ็นไซม์ชื่อเรนินเข้าไปในระบบเลือดและก็จะเข้าไปสร้างฮอร์โมน อีกตัวหนึ่ง คือ แองจิโอเทนซิน ซึ่งก็จะย้อนไปเร่งให้ไฮโปทาลามัสสร้าง ADH เพิ่มขึ้นอีก
ผลก็คือเราก็จะคอแห้ง กระหายน้ำ ผมเคยเห็นบางคนเป็นเอามาก ตื่นขึ้นมาแต่เช้าก็จะคอแห้งดื่มน้ำอั๊กๆ
เอา ละขอสรุปสั้นๆว่า ที่อธิบายมาค่อนข้างจะยืดยาวนี้ ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า การปัสสาวะบ่อยๆและการที่รู้สึกกระหายน้ำมากๆนี้ เป็นเรื่องคู่กัน
และเป็นเรื่องสำคัญก็คือ เนื่องมาจากเบาหวานและเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบเลือด/หัวใจ ไตและระบบสมอง ทั้งหมดต้องทำงานพร้อมๆกัน ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องเบาหวานแต่เพียงเรื่องเดียว
ต่อไปนี้ขอแนะนำสั้นๆและตรงไปตรงมาเลยนะครับ ว่าจะให้ปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อบรรเทาการฉี่มาก และบรรเทาการกระหายน้ำมากๆ
1. โดยเหตุที่ถ้าฉี่บ่อยๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน คุณก็ต้องไปห้องน้ำบ่อยๆ เมื่อกลับจากห้องน้ำคุณจะนอนไม่หลับ ทำให้ภูมิชีวิตหรือ IMMUNE SYSTEM เกี่ยวกับการนอนตกต่ำมาก
วิธีแก้ คุณผู้ชายให้หากระบอกปัสสาวะไว้ข้างเตียง คุณผู้หญิงก็เหมือนกัน หาโถฉี่ไว้ข้างเตียง ฉี่แล้วทำความสะอาดดีๆ จะนอนต่อได้สบาย
2. เวลาดื่มน้ำ อย่าดื่มอั๊กๆเพื่อให้หายอยาก แต่ดื่มทีละอึก สองอึก กลั้วคอ ดื่มบ่อยๆได้
3. ท่ารำตะบอง ทำท่าแถมสองแขนรัดตะบองไว้บั้นเอวด้านหลัง เขย่งเท้า แล้วย่อตัวนั่งบนส้นเท้า 3 ครั้ง แล้วลดตัวนั่งยองๆ ลุกขึ้นยืนเขย่งย่อตัว นับเป็น 1 เซต ให้ทำอย่างน้อย 30 เซตทุกวัน (สงสัยให้ไปถามเพื่อนๆที่ศูนย์รำตะบองชีวจิตทุกแห่ง เขาจะสอนให้เราฟรีๆพร้อมคำแนะนำ)
4. ใช้เถาวัลย์เปรียงตากแห้ง หั่นเป็นแว่น ต้มน้ำร้อนดื่ม 5 แว่น เช้า-เย็นทุกวัน
5. วิตามินและอาหารเสริม
วิตามิน B1 1 เม็ดเช้า (250 มก.) B6 1 เม็ดเช้า (50 มก.)
น้ำมันเมล็ดฟักทอง 1 แคปซูล (1,000 มก.) ถ้าหาไม่ได้ กินเมล็ดฟักทองกะเทาะเปลือก วันละ 5 ช้อนโต๊ะอีฟเวนนิง พริมโรส 1 แคปซูล
วิตามิน D 1 แคปซูล (1,000 I.U.) หรือใช้น้ำมันปลา 1 แคปซูลแทนก็ได้
คอร์สชีวจิตแบบเข้มข้น โดย อ.สาทิสและพี่เลี้ยงที่ผึ้งหวานรีสอร์ท แอนด์สปา กาญจนบุรี วันที่ 2-5 พฤษภาคม
อย่า รีรอนะครับ เพราะเราต้องจองสถานที่ล่วงหน้า ถ้าคุณรอจนใกล้วันสุดท้าย เราจะจองห้องไม่ทัน โทร.คุณสุวคนธ์ 08-0295-1794, คุณมานพ 08-1907-2113, คุณกรรณ 08-9788-8443, คุณแดง 08-9782-3545 คุณธนิต 08-1916-4000.
เริ่มด้วยโรคซึ่งใครๆรู้จักกันดี มาคุยกันก่อน โรคนั้นก็คือ "เบาหวาน"
" เบาหวาน" นั้น โดยทั่วไปมักจะเอาเรื่องน้ำตาลในเลือดเป็นเกณฑ์ ถ้าไปหาคุณหมอลองให้ตรวจเลือดให้ ถ้าน้ำตาลในเลือดของคุณอยู่ในเกณฑ์ตั้งแต่ 110-125 mg/dl ท่านก็จะบอกว่าคุณมีโอกาสเริ่มจะเป็นเบาหวาน ต้องระวังตัว
ถ้าเกิน 125 mg ขึ้นไป และบางครั้งก็เลย 125 จนจะถึง 150 mg ท่านก็คงต้องให้ยาเบาหวานซึ่งเป็นยากดน้ำตาลในเลือดของคุณให้ลดลง
นั่นเป็นคำนำย่อๆของการเป็นเบาหวาน ซึ่งก็คือยึดเอาเรื่องน้ำตาลในเลือดซึ่งสูงผิดปกติเป็นเกณฑ์
แต่ เบาหวานไม่ใช่เรื่องของน้ำตาลในเลือดอย่างเดียว แต่ยังมีอาการอื่นๆนอกจากน้ำตาลมาผสมด้วยหลายอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง ปวดเมื่อยตามตัวตามัว อ่อนเพลีย แถมยังมีอาการคล้ายๆคนเป็นโรคหัวใจรวมอยู่ด้วย
และในอาการนอกเหนือไปหลายๆอย่างนี้ ก็แถมด้วยอาการของการกระหายน้ำและปัสสาวะบ่อยเป็นประจำรวมด้วยเช่นกัน
หลายคนที่เป็นเบาหวานหรือมีอาการแบบจะเริ่มเบาหวานอย่างอ่อนๆ อาจจะยังไม่เคยคิดมาเลยว่าตัวเองจะเป็นเบาหวาน
พอ มีอาการกระหายน้ำมากๆ และปัสสาวะบ่อยๆรวมทั้งอ่อนเพลียมากโดยหาสาเหตุไม่พบก็มักจะคิดว่าตนเองมี ปัญหาเกี่ยวกับไตหรือบางทีคงดื่มน้ำไม่พอในวันหนึ่งๆ
พอคิดว่าดื่ม น้ำไม่พอ ก็เลยดื่มน้ำเพิ่มเป็นการใหญ่ บางท่านเชื่อคำร่ำลือที่ว่าดื่มน้ำมากๆรักษาโรคได้ ก็เลยดื่มน้ำวันละ 3-5 ลิตร จนกระทั่งเกิดอาการตัวบวมและไตวายดังที่เล่าให้ฟังเมื่อตอนต้นๆของบทความ เรื่องฉี่นี้
เพราะฉะนั้น เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเพราะไม่รู้ว่าตนเองเป็นเบาหวาน แต่กลับไปแก้ด้วยการกินน้ำมากๆ ก็เลยทำให้ฉี่มากๆ และทำให้เกิดอาการไตวายได้อย่างนี้แหละครับ
ขออธิบายย่อๆก่อนว่า ทำไมจึงปัสสาวะบ่อยเมื่อเป็นเบาหวาน
หน้าที่ของไตโดยตรงคือ
1. ระบายของสกปรกหรือสิ่งที่มีเกินความต้องการของร่างกายออกไป
2. รักษาสิ่งที่มีประโยชน์ไว้ไม่ให้ออกไปกับสิ่งสกปรกอื่นๆ
3. เมื่อรักษาสิ่งมีประโยชน์ไว้แล้ว ก็ต้องเก็บรักษาสิ่งที่มีประโยชน์ไว้ตามอวัยวะต่างๆให้ถูกต้องตามที่ของมันด้วย
ฉะนั้น เมื่อมีน้ำตาลในเลือดเกินขีดปกติ ไตก็ต้องทำหน้าที่ร่วมกับตับอ่อน เมื่อน้ำตาลสูง ตับอ่อนต้องสร้างฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มขึ้นเพื่อลดน้ำตาล และไตก็ต้องทำหน้าที่ระบายน้ำตาลซึ่งสูงเกินควรออกทางปัสสาวะด้วย
อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมองและระบบประสาทโดยตรง นั่นก็คือเรื่องของการกระหายน้ำ
สมอง มีต่อมหรือปุ่มที่ควบคุมความรู้สึกกระหายน้ำของคนเรา หลักง่ายๆของร่างกายก็คือ ถ้าเราถ่ายน้ำออกจากร่างกายมาก จะเป็นการปัสสาวะหรือเหงื่อออกก็ดี น้ำออกไปมาก ร่างกายก็แห้ง
ร่างกายต้องการความสมดุลระหว่างน้ำกับเนื้อในร่างกายเรา เมื่อน้ำออกจากร่างกายมากเกินไป (ปัสสาวะ/เหงื่อ) เกลือในตัวเราก็จะเข้มข้นขึ้น ตัวอวัยวะบางตัวซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดความเข้มข้นของเกลือ ก็จะเตือนไปที่ระบบเส้นเลือดและหัวใจ (CARDIOVASCULAR SYSTEM) ระบบนี้จะเตือนไปที่เซลล์ส่วนหนึ่งของไฮโปทาลามัส (HYPOTHALAMUS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองส่วนกลาง
ไฮโปทาลามัสก็จะเตือนไปที่ต่อมพิทูอิทารี (ต่อมใต้สมอง)
ต่อมนี้ก็จะหลั่งฮอร์โมน ANTIDIURETIC HORMONE หรือเรียกสั้นๆว่า ADH ออกมา
เจ้า ADH นี้ก็จะไปออกฤทธิ์กับไต ซึ่งจะหลั่งเอ็นไซม์ชื่อเรนินเข้าไปในระบบเลือดและก็จะเข้าไปสร้างฮอร์โมน อีกตัวหนึ่ง คือ แองจิโอเทนซิน ซึ่งก็จะย้อนไปเร่งให้ไฮโปทาลามัสสร้าง ADH เพิ่มขึ้นอีก
ผลก็คือเราก็จะคอแห้ง กระหายน้ำ ผมเคยเห็นบางคนเป็นเอามาก ตื่นขึ้นมาแต่เช้าก็จะคอแห้งดื่มน้ำอั๊กๆ
เอา ละขอสรุปสั้นๆว่า ที่อธิบายมาค่อนข้างจะยืดยาวนี้ ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า การปัสสาวะบ่อยๆและการที่รู้สึกกระหายน้ำมากๆนี้ เป็นเรื่องคู่กัน
และเป็นเรื่องสำคัญก็คือ เนื่องมาจากเบาหวานและเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบเลือด/หัวใจ ไตและระบบสมอง ทั้งหมดต้องทำงานพร้อมๆกัน ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องเบาหวานแต่เพียงเรื่องเดียว
ต่อไปนี้ขอแนะนำสั้นๆและตรงไปตรงมาเลยนะครับ ว่าจะให้ปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อบรรเทาการฉี่มาก และบรรเทาการกระหายน้ำมากๆ
1. โดยเหตุที่ถ้าฉี่บ่อยๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน คุณก็ต้องไปห้องน้ำบ่อยๆ เมื่อกลับจากห้องน้ำคุณจะนอนไม่หลับ ทำให้ภูมิชีวิตหรือ IMMUNE SYSTEM เกี่ยวกับการนอนตกต่ำมาก
วิธีแก้ คุณผู้ชายให้หากระบอกปัสสาวะไว้ข้างเตียง คุณผู้หญิงก็เหมือนกัน หาโถฉี่ไว้ข้างเตียง ฉี่แล้วทำความสะอาดดีๆ จะนอนต่อได้สบาย
2. เวลาดื่มน้ำ อย่าดื่มอั๊กๆเพื่อให้หายอยาก แต่ดื่มทีละอึก สองอึก กลั้วคอ ดื่มบ่อยๆได้
3. ท่ารำตะบอง ทำท่าแถมสองแขนรัดตะบองไว้บั้นเอวด้านหลัง เขย่งเท้า แล้วย่อตัวนั่งบนส้นเท้า 3 ครั้ง แล้วลดตัวนั่งยองๆ ลุกขึ้นยืนเขย่งย่อตัว นับเป็น 1 เซต ให้ทำอย่างน้อย 30 เซตทุกวัน (สงสัยให้ไปถามเพื่อนๆที่ศูนย์รำตะบองชีวจิตทุกแห่ง เขาจะสอนให้เราฟรีๆพร้อมคำแนะนำ)
4. ใช้เถาวัลย์เปรียงตากแห้ง หั่นเป็นแว่น ต้มน้ำร้อนดื่ม 5 แว่น เช้า-เย็นทุกวัน
5. วิตามินและอาหารเสริม
วิตามิน B1 1 เม็ดเช้า (250 มก.) B6 1 เม็ดเช้า (50 มก.)
น้ำมันเมล็ดฟักทอง 1 แคปซูล (1,000 มก.) ถ้าหาไม่ได้ กินเมล็ดฟักทองกะเทาะเปลือก วันละ 5 ช้อนโต๊ะอีฟเวนนิง พริมโรส 1 แคปซูล
วิตามิน D 1 แคปซูล (1,000 I.U.) หรือใช้น้ำมันปลา 1 แคปซูลแทนก็ได้
*****
คอร์สสุขภาพชุบตัวเป็นคนใหม่คอร์สชีวจิตแบบเข้มข้น โดย อ.สาทิสและพี่เลี้ยงที่ผึ้งหวานรีสอร์ท แอนด์สปา กาญจนบุรี วันที่ 2-5 พฤษภาคม
อย่า รีรอนะครับ เพราะเราต้องจองสถานที่ล่วงหน้า ถ้าคุณรอจนใกล้วันสุดท้าย เราจะจองห้องไม่ทัน โทร.คุณสุวคนธ์ 08-0295-1794, คุณมานพ 08-1907-2113, คุณกรรณ 08-9788-8443, คุณแดง 08-9782-3545 คุณธนิต 08-1916-4000.
สาทิส อินทรกำแหง
http://www.thairath.co.th/column/life/chewajit/78779
No comments:
Post a Comment