KP Page
Yesterday 5:40 AM - Public
Kasian Tejapira
Yesterday
ระบอบประชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์: การต่อยอดเล็ก ๆ ที่เผยให้เห็นความจริงโดยไม่ตั้งใจ (unintentional truth) ของวาทกรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ทฤษฎีที่ว่าใหม่นี้เอาเข้าจริงเป็นแค่การต่อยอดของวาทกรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ของนักคิดรอยัลลิสต์ไทยยุคหลัง ๒๔๗๕ ย้อนหลังกลับไปได้ถึงพระองค์เจ้าธานีนิวัตและม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ข้อเสนอของนักคิดเหล่านี้คือ สุโขทัยเป็นยูโทเปีย (สุโขทยาน คำแปลของสมัค บุราวาศ) ของประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เรามีเสรีประชาธิปไตยมาตั้งนานแล้วแต่สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหง นั่งแท่นมนังคศิลารับฟังทุกข์ร้อนของราษฎรที่มาสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ฯลฯ ถ้าไทยเราเป็นประชาธิปไตยมาแต่เดิมครั้งกรุงสุโขทัย ๒๔๗๕ ก็ไม่มีอะไรใหม่ แต่เป็นของแปลกปลอม ใจเร็วด่วนได้ จากเมืองนอก ไม่รู้จักเข้าใจและไม่สอดคล้องกับธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีไทยท้องถิ่นแต่เดิม
ส่วนกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญอยู่ตรงเป็นรอยต่อช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง ระบอบพ่อปกครองลูกสมัยสุโขทัย (ซึ่งจอมพลสฤษดิ์มาผลิตซ้ำทางอุดมการณ์ภายใต้ระบอบปฏิวัติ และจอมพลป.ยืมจินตนาการนั้นมาตั้งเป็นชื่อพรรคว่าพรรคเสรีมนังคศิลา จำได้ไหม?) กับธรรมเนียมกษัตริย์แบบใหม่ที่เรียกว่าลัทธิเทวสิทธิ์ของพราหมณ์ฮินดูจากอินเดีย ที่ถือกษัตริย์เป็นสมมุติเทพ ปางอวตารของพระนารายณ์ มาเป็นพระราม ฯลฯ ศักดิืสิทธิ์ สูงส่ง แตะต้องไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว นักคิดรอยัลลิสต์ไทยชมชอบธรรมเนียมกษัตริย์แบบพุทธ คือ ธรรมราชาผู้ทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรมและรักษาจักรวรรดิวัตรมากกว่า
วาทกรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ นี่คงเส้นคงวาต่อเนื่องมาแต่พระองค์เจ้าธานีนิวัติ ต้นตำรับ มาจนถึงผู้สืบทอดรุ่นหลังอย่างบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ความแปลกใหม่ของคุณสมศักดิ์ ในคู่มือเตรียมสอบปลัดอำเภอเล่มนี้คือ แกบอกตรง ๆ โต้ง ๆ อย่างที่แกเห็นซื่อ ๆ ว่า "ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ " = "ประชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์" หรือนัยหนึ่ง adjective "ไทยๆ" = "สมบูรณาญาสิทธิราชย์" = "absolutism" นั่นเอง ในความหมายนี้ โดยไม่เจตนา แกได้เผยให้เห็นความจริงที่ว่าประชาธิปไตยแบบไทย ๆ นั้นโดยแก่นแท้แล้วก็คือ absolutism แบบหนึ่งนั่นเอง
นี่เป็นความฝันอันสูงสุดของ the royalist counter-revolutionary project คือทำให้ประชาธิปไตยที่เพียรพยายามสร้าง ๆ กันขึ้นมาหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ เอาเข้าจริงไม่ได้เปลี่ยน แต่พลิกย้อนหวนกลับไปเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เดิม เหมือนไม่เคยเกิด ๒๔๗๕ เลย
การคิดเกี่ยวกับสัมพันธภาพทางอำนาจของการเมืองไทยเสมือนหนึ่งไม่เคยเกิดเคยมี ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เลยนั้นเป็นอาการแบบฉบับของนักคิดสำนักรอยัลลิสต์ และสะท้อนออกในกรณีรูปธรรมทางปฏิบัติต่าง ๆ เช่น หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานฟ้องกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตาม ม. ๑๑๒ เพราะบังอาจสั่งให้ระงับเลิกโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น
ในอีกบริบทหนึ่งผมเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าแนวโน้มเสมือนสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (virtual absolute monarchy) ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของไทย กล่าวคือมีโครงสร้างกฎหมายการเมืองการปกครองเหมือนระบอบรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย แต่ผู้คนจำนวนหนึ่งกลับมีความคิดพฤติกรรมเสมอเสมือนหนึ่งอยู่ในสมัยก่อน ๒๔๗๕ ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ไม่ปาน
ก็ต้องขอบคุณคุณสมศักดิ์ที่ช่วยให้ว่าที่ปลัดอำเภอของเราเข้าถึงแก่นแท้ของประชาธิปไตยแบบไทย ๆ (ที่นักคิดรอยัลลิสต์รุ่นก่อนแต่เดิมอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ไม่พูดออกมาโต้ง ๆ ตรง ๆ) แต่เนิ่น ๆ ก่อนเข้ากระทรวงมหาดไทยไปเป็นอำมาตย์เล็ก ๆ ปกครองดูแลไพร่ราบราษฎรด้วยซ้ำ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4024870103034&set=p.4024870103034&type=1
Yesterday
ระบอบประชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์: การต่อยอดเล็ก ๆ ที่เผยให้เห็นความจริงโดยไม่ตั้งใจ (unintentional truth) ของวาทกรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ทฤษฎีที่ว่าใหม่นี้เอาเข้าจริงเป็นแค่การต่อยอดของวาทกรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ของนักคิดรอยัลลิสต์ไทยยุคหลัง ๒๔๗๕ ย้อนหลังกลับไปได้ถึงพระองค์เจ้าธานีนิวัตและม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ข้อเสนอของนักคิดเหล่านี้คือ สุโขทัยเป็นยูโทเปีย (สุโขทยาน คำแปลของสมัค บุราวาศ) ของประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เรามีเสรีประชาธิปไตยมาตั้งนานแล้วแต่สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหง นั่งแท่นมนังคศิลารับฟังทุกข์ร้อนของราษฎรที่มาสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ฯลฯ ถ้าไทยเราเป็นประชาธิปไตยมาแต่เดิมครั้งกรุงสุโขทัย ๒๔๗๕ ก็ไม่มีอะไรใหม่ แต่เป็นของแปลกปลอม ใจเร็วด่วนได้ จากเมืองนอก ไม่รู้จักเข้าใจและไม่สอดคล้องกับธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีไทยท้องถิ่นแต่เดิม
ส่วนกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญอยู่ตรงเป็นรอยต่อช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง ระบอบพ่อปกครองลูกสมัยสุโขทัย (ซึ่งจอมพลสฤษดิ์มาผลิตซ้ำทางอุดมการณ์ภายใต้ระบอบปฏิวัติ และจอมพลป.ยืมจินตนาการนั้นมาตั้งเป็นชื่อพรรคว่าพรรคเสรีมนังคศิลา จำได้ไหม?) กับธรรมเนียมกษัตริย์แบบใหม่ที่เรียกว่าลัทธิเทวสิทธิ์ของพราหมณ์ฮินดูจากอินเดีย ที่ถือกษัตริย์เป็นสมมุติเทพ ปางอวตารของพระนารายณ์ มาเป็นพระราม ฯลฯ ศักดิืสิทธิ์ สูงส่ง แตะต้องไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว นักคิดรอยัลลิสต์ไทยชมชอบธรรมเนียมกษัตริย์แบบพุทธ คือ ธรรมราชาผู้ทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรมและรักษาจักรวรรดิวัตรมากกว่า
วาทกรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ นี่คงเส้นคงวาต่อเนื่องมาแต่พระองค์เจ้าธานีนิวัติ ต้นตำรับ มาจนถึงผู้สืบทอดรุ่นหลังอย่างบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ความแปลกใหม่ของคุณสมศักดิ์ ในคู่มือเตรียมสอบปลัดอำเภอเล่มนี้คือ แกบอกตรง ๆ โต้ง ๆ อย่างที่แกเห็นซื่อ ๆ ว่า "ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ " = "ประชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์" หรือนัยหนึ่ง adjective "ไทยๆ" = "สมบูรณาญาสิทธิราชย์" = "absolutism" นั่นเอง ในความหมายนี้ โดยไม่เจตนา แกได้เผยให้เห็นความจริงที่ว่าประชาธิปไตยแบบไทย ๆ นั้นโดยแก่นแท้แล้วก็คือ absolutism แบบหนึ่งนั่นเอง
นี่เป็นความฝันอันสูงสุดของ the royalist counter-revolutionary project คือทำให้ประชาธิปไตยที่เพียรพยายามสร้าง ๆ กันขึ้นมาหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ เอาเข้าจริงไม่ได้เปลี่ยน แต่พลิกย้อนหวนกลับไปเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เดิม เหมือนไม่เคยเกิด ๒๔๗๕ เลย
การคิดเกี่ยวกับสัมพันธภาพทางอำนาจของการเมืองไทยเสมือนหนึ่งไม่เคยเกิดเคยมี ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เลยนั้นเป็นอาการแบบฉบับของนักคิดสำนักรอยัลลิสต์ และสะท้อนออกในกรณีรูปธรรมทางปฏิบัติต่าง ๆ เช่น หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานฟ้องกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตาม ม. ๑๑๒ เพราะบังอาจสั่งให้ระงับเลิกโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น
ในอีกบริบทหนึ่งผมเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าแนวโน้มเสมือนสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (virtual absolute monarchy) ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของไทย กล่าวคือมีโครงสร้างกฎหมายการเมืองการปกครองเหมือนระบอบรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย แต่ผู้คนจำนวนหนึ่งกลับมีความคิดพฤติกรรมเสมอเสมือนหนึ่งอยู่ในสมัยก่อน ๒๔๗๕ ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ไม่ปาน
ก็ต้องขอบคุณคุณสมศักดิ์ที่ช่วยให้ว่าที่ปลัดอำเภอของเราเข้าถึงแก่นแท้ของประชาธิปไตยแบบไทย ๆ (ที่นักคิดรอยัลลิสต์รุ่นก่อนแต่เดิมอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ไม่พูดออกมาโต้ง ๆ ตรง ๆ) แต่เนิ่น ๆ ก่อนเข้ากระทรวงมหาดไทยไปเป็นอำมาตย์เล็ก ๆ ปกครองดูแลไพร่ราบราษฎรด้วยซ้ำ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4024870103034&set=p.4024870103034&type=1
Add a comment...
KP Page
Yesterday 5:31 AM - Public
Nation Channel
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี บอก นโยบายประชานิยมเสี่ยงหายนะ! หลังเจ้าตัว กล่าวเปิดงานสัมมนาเรื่อง "ความห่วงใย นโยบายประชานิยม" ลั่น "ผมมองว่านโยบายประชานิยมเป็นเพียงแค่การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนั้น จึงเป็นความเสี่ยงและอาจเป็นหายนะได้ หากทำนโยบาย ประชานิยมแล้วหยุดอยู่แค่นั้น และหวังให้รัฐบาล ชุดต่อไปมาดำเนินโครงการต่อ ก็เมินซะเถอะ ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าแม้เป็น รัฐบาลพรรคเดียวกัน เช่น สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ต่อด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นโยบายยังมีการเปลี่ยนแปลง"
Noppadon Pattama's status.
นักวิชาการคนหนึ่งพูดว่า ประชานิยมอาจทำชาติล่มจม แต่ผมว่าพวกประชาไม่นิยมมากกว่ามั้ง
KP
ช่วงนี้ลิ่วล้อเริ่มเดินหน้าเห่าหอนกันอีกรอบแล้ว ...
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี บอก นโยบายประชานิยมเสี่ยงหายนะ! หลังเจ้าตัว กล่าวเปิดงานสัมมนาเรื่อง "ความห่วงใย นโยบายประชานิยม" ลั่น "ผมมองว่านโยบายประชานิยมเป็นเพียงแค่การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนั้น จึงเป็นความเสี่ยงและอาจเป็นหายนะได้ หากทำนโยบาย ประชานิยมแล้วหยุดอยู่แค่นั้น และหวังให้รัฐบาล ชุดต่อไปมาดำเนินโครงการต่อ ก็เมินซะเถอะ ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าแม้เป็น รัฐบาลพรรคเดียวกัน เช่น สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ต่อด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นโยบายยังมีการเปลี่ยนแปลง"
Noppadon Pattama's status.
นักวิชาการคนหนึ่งพูดว่า ประชานิยมอาจทำชาติล่มจม แต่ผมว่าพวกประชาไม่นิยมมากกว่ามั้ง
KP
ช่วงนี้ลิ่วล้อเริ่มเดินหน้าเห่าหอนกันอีกรอบแล้ว ...
Add a comment...
KP Page
Yesterday 5:25 AM - Public
Kasian Tejapira
ปุจฉา-วิสัชนา: ทำไมอยู่เมืองไทยอยากมีเสรีภาพในการแสดงออก มักถูกไล่ไปอยู่ต่างประเทศ?
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
บก.ลายจุด ตั้งปุจฉาว่า
สังคมไทยมีชุดคิดที่มักง่ายอยู่อย่างคือ ถ้าอยากมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นต้องไปแปลงชาติแล้วไปอยู่ ตปท
ผมทดลองตอบว่า:
ถ้าพูดตามประสบการณ์ที่เป็นจริงทางประวัติศาสตร์ของไทยที่ผ่านมาอย่างไม่ติดชาตินิยมคาปาก ก็คือ "ในเมืองไทยเรานี้ แต่ไหนแต่ไรมา สิทธิเสรีจะบังเกิดมีขึ้นได้ เอกราชอธิปไตยต้องไม่สมบูรณ์" (สมบูรณ์เมื่อไหร่ ประชาชนเสร็จชนชั้นปกครองทุกที)
สิทธิเสรีภาพของคนที่ไม่ใช่เจ้านายขุนนางเริ่มขึ้นในเมืองไทยจากฝรั่งตาน้ำข้าวอพยพเข้ามาสอนศาสนาและออกหนังสือพิมพ์ (หมอบรัดเล The Bangkok Recorder), จนทางราชการไทยสมัยร.๔ ต้องออกราชกิจจานุเบกษามาประชันเพราะกลัวราษฎรเชื่อตามนสพ.ภาษาไทยของฝรั่ง
สิทธิสภาพนอกอาณาเขต (extraterritorial jurisdiction) อันเกิดจากการทำสนธิสัญญาไม่เสมอภาคกับมหาอำนาจอาณานิคมนตะวันตกต่าง ๆ กลายเป็นเกราะคุ้มกันบรรดานสพ.ฉบับต่าง ๆ ที่ทยอยออกตามมาในรัชกาลที่ ๕ และ ๖ เช่น จีนโนสยามวรศัพท์ ของ เซียวฮุดเส็ง สีบุญเรือง (สัปเยกอังกฤษ), กรรมกร ของถวัต ฤทธิเดช (จ้างนาย เอส มาร์คี แขกเลี้ยงวัว สัปเยกอังกฤษมาเป็นบก.บังหน้า)
ปรากฏว่าต่อมาเมื่อคณะราษฎรโดยอาจารย์ปรีดี พนมยงค์เจรจาแก้ไขสนธิสัญญาไม่เสมอภาคกับนานาชาติตะวันตกสำเร็จ รัฐไทยมีอำนาจอธิปไตยสมบูรณ์ การกดขี่ลิดรอนเล่นงานหนังสือพิมพ์และนักหนังสือพิมพ์โดยรัฐบาลก็เกิดหนักหน่วงหนักข้อขึ้นตามมา โดยเฉพาะในสมัยรัฐบาลพิบูลสงคราม คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ติดคุกคดีไทยอิสสระ ก็ในช่วงญี่ปุ่นบุกไทยและรัฐบาลจอมพลป.ร่วมกับญี่ปุ่นนี่เอง จึงไล่จับผู้ต้องสงสัยต่อต้านญี่ปุ่นมา รวมทั้งนักนสพ.อย่างคุณกุหลาบด้วย (คุณกุหลาบจำลองเรื่องนี้ไว้ในฉากจบของนิยายเรื่อง แลไปข้างหน้า ภาคมัชฌิมวัย โดยให้ เซ้ง ตัวละครลูกครึ่งเจ๊ก-ญวน นักนสพ. ถูกตำรวจบุกจับเพราะต้องสงสัยออกใบปลิวต่อต้านญี่ปุ่นเมื่อญี่ปุนบุกเข้าไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง)
ถ้าเราเข้าใจตรรกะพิสดารดังกล่าว ก็จะเข้าใจได้ถึงบทบาทของ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการทั่วไปสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน นาง Hina Jilani ที่ถูกอดีตนายกฯทักษิณด่าว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อกูและไล่ให้ไปดูสิทธิมนุษยชนที่ปากีสถานแทน ตอนเธอเข้ามาสืบสวนเรื่องฆ่าตัดตอนยาเสพติด, เข้าใจได้ถึงบทบาทของสภายุโรปและอียูและสหรัฐฯที่พยายามไต่สวนแทรกแซงคราวปราบใหญ่เมษา-พฤษภาอำมหิต ๒๕๕๓ และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ต่อเนื่องมา และเข้าใจว่า ในเมืองไทยเรานี้ สิทธิเสรีจะเกิดมีขึ้นได้ เอกราชอธิปไตยต้องไม่สมบูรณ์ (สมบูรณ์เมื่อไร ประชาชนเสร็จชนชั้นปกครองทุกที)
https://www.facebook.com/kasian.tejapira/posts/4031762915350
ปุจฉา-วิสัชนา: ทำไมอยู่เมืองไทยอยากมีเสรีภาพในการแสดงออก มักถูกไล่ไปอยู่ต่างประเทศ?
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
บก.ลายจุด ตั้งปุจฉาว่า
สังคมไทยมีชุดคิดที่มักง่ายอยู่อย่างคือ ถ้าอยากมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นต้องไปแปลงชาติแล้วไปอยู่ ตปท
ผมทดลองตอบว่า:
ถ้าพูดตามประสบการณ์ที่เป็นจริงทางประวัติศาสตร์ของไทยที่ผ่านมาอย่างไม่ติดชาตินิยมคาปาก ก็คือ "ในเมืองไทยเรานี้ แต่ไหนแต่ไรมา สิทธิเสรีจะบังเกิดมีขึ้นได้ เอกราชอธิปไตยต้องไม่สมบูรณ์" (สมบูรณ์เมื่อไหร่ ประชาชนเสร็จชนชั้นปกครองทุกที)
สิทธิเสรีภาพของคนที่ไม่ใช่เจ้านายขุนนางเริ่มขึ้นในเมืองไทยจากฝรั่งตาน้ำข้าวอพยพเข้ามาสอนศาสนาและออกหนังสือพิมพ์ (หมอบรัดเล The Bangkok Recorder), จนทางราชการไทยสมัยร.๔ ต้องออกราชกิจจานุเบกษามาประชันเพราะกลัวราษฎรเชื่อตามนสพ.ภาษาไทยของฝรั่ง
สิทธิสภาพนอกอาณาเขต (extraterritorial jurisdiction) อันเกิดจากการทำสนธิสัญญาไม่เสมอภาคกับมหาอำนาจอาณานิคมนตะวันตกต่าง ๆ กลายเป็นเกราะคุ้มกันบรรดานสพ.ฉบับต่าง ๆ ที่ทยอยออกตามมาในรัชกาลที่ ๕ และ ๖ เช่น จีนโนสยามวรศัพท์ ของ เซียวฮุดเส็ง สีบุญเรือง (สัปเยกอังกฤษ), กรรมกร ของถวัต ฤทธิเดช (จ้างนาย เอส มาร์คี แขกเลี้ยงวัว สัปเยกอังกฤษมาเป็นบก.บังหน้า)
ปรากฏว่าต่อมาเมื่อคณะราษฎรโดยอาจารย์ปรีดี พนมยงค์เจรจาแก้ไขสนธิสัญญาไม่เสมอภาคกับนานาชาติตะวันตกสำเร็จ รัฐไทยมีอำนาจอธิปไตยสมบูรณ์ การกดขี่ลิดรอนเล่นงานหนังสือพิมพ์และนักหนังสือพิมพ์โดยรัฐบาลก็เกิดหนักหน่วงหนักข้อขึ้นตามมา โดยเฉพาะในสมัยรัฐบาลพิบูลสงคราม คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ติดคุกคดีไทยอิสสระ ก็ในช่วงญี่ปุ่นบุกไทยและรัฐบาลจอมพลป.ร่วมกับญี่ปุ่นนี่เอง จึงไล่จับผู้ต้องสงสัยต่อต้านญี่ปุ่นมา รวมทั้งนักนสพ.อย่างคุณกุหลาบด้วย (คุณกุหลาบจำลองเรื่องนี้ไว้ในฉากจบของนิยายเรื่อง แลไปข้างหน้า ภาคมัชฌิมวัย โดยให้ เซ้ง ตัวละครลูกครึ่งเจ๊ก-ญวน นักนสพ. ถูกตำรวจบุกจับเพราะต้องสงสัยออกใบปลิวต่อต้านญี่ปุ่นเมื่อญี่ปุนบุกเข้าไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง)
ถ้าเราเข้าใจตรรกะพิสดารดังกล่าว ก็จะเข้าใจได้ถึงบทบาทของ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการทั่วไปสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน นาง Hina Jilani ที่ถูกอดีตนายกฯทักษิณด่าว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อกูและไล่ให้ไปดูสิทธิมนุษยชนที่ปากีสถานแทน ตอนเธอเข้ามาสืบสวนเรื่องฆ่าตัดตอนยาเสพติด, เข้าใจได้ถึงบทบาทของสภายุโรปและอียูและสหรัฐฯที่พยายามไต่สวนแทรกแซงคราวปราบใหญ่เมษา-พฤษภาอำมหิต ๒๕๕๓ และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ต่อเนื่องมา และเข้าใจว่า ในเมืองไทยเรานี้ สิทธิเสรีจะเกิดมีขึ้นได้ เอกราชอธิปไตยต้องไม่สมบูรณ์ (สมบูรณ์เมื่อไร ประชาชนเสร็จชนชั้นปกครองทุกที)
https://www.facebook.com/kasian.tejapira/posts/4031762915350
Add a comment...
KP Page
May 22, 2012 (edited) - Public
จุดเริ่มต้นของการสังหารหมู่ประชาชน ที่อาจเรียกได้ว่า เป็นการสังหารหมู่ครั้งที่รุนแรงที่สุดในศตวรรษที่ 20 เกิดจากนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ของนายซูฮาร์โต้ในปี 2508 ที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังเข้าสังหารประชาชน โดยเหตุสังหารหมู่เกิดขึ้นบนหมู่เกาะชวา บาหลี ลอมบ็อก และสุมาตรา ซึ่งศพของผู้เสียชีวิตถูกนำไปฝังยังสถานที่ที่ไม่มีใครทราบ บางศพก็ถูกนำไปโยนทิ้งทะเล
รัฐบาลอินโดฯเรียกร้องให้ปชช.ลืมอดีต เพื่อเดินหน้าสู่อนาคต
Add a comment...
Add a comment...
KP Page
May 22, 2012 - Public
นิตยสาร สารคดี originally shared this post:
สัมภาษณ์ กิ่งก้านใบของ “เจ้าชายผัก” แห่งสวนป่าคอนกรีต นคร ลิมปคุปตถาวร จาก สารคดี ฉบับ 325 นำมาให้อ่านแล้ว -
Add a comment...
KP Page
May 22, 2012 - Public
ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 ณ ห้องแจ้งวัฒนะฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ
มหกรรมเทศนาธรรม มีเทศน์ มีทอล์ค เฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี
Add a comment...
No comments:
Post a Comment