KP Page - Mar 22, 2012 - Public
King Rama VIII death case: the first verdict Andrew MacGregor Marshall Zen Journalist: March 13, 2012 http://www.zenjournalist.com/2012/03/king-rama-viii-death-case-the-first-verdict/ PDF: First v...
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 - Public
Andrew MacGregor Marshall shared a link.
March 16
On Thailand, Twitter and censorship: an article by Sarah Logan of the Australian National University
http://asiapacific.anu.edu.au/news/story/word-cage-thailand,-twitter-and-censorship
March 16
On Thailand, Twitter and censorship: an article by Sarah Logan of the Australian National University
http://asiapacific.anu.edu.au/news/story/word-cage-thailand,-twitter-and-censorship
Governments cannot control the relationship between their citizens and the Internet without the assistance of social media giants.
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 - Public
Andrew MacGregor Marshall shared a link.
March 17 near Singapore, SingaporeEssential reading from David Streckfuss on comparing the world's monarchies, via Freedom Against Censorship Thailand:
http://facthai.wordpress.com/2012/03/17/a-comparison-of-modern-monarchies-dr-david-streckfuss/
March 17 near Singapore, SingaporeEssential reading from David Streckfuss on comparing the world's monarchies, via Freedom Against Censorship Thailand:
http://facthai.wordpress.com/2012/03/17/a-comparison-of-modern-monarchies-dr-david-streckfuss/
[CJ Hinke of FACT comments: I had the privilege of attending a distinguished academic panel for a seminar called Thailand Democracy in Crisis at Chulalongkorn University sponsored by McGill Univers......
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 - Public
Andrew MacGregor Marshall shared a link.
Tuesday near Singapore, SingaporeA clear, concise and blunt summary of what Thai royalism means:
http://www.foreignaffairs.com/articles/137252/edited-by-soren-ivarsson-and-lotte-isager/saying-the-unsayable-monarchy-and-democracy-in-thailand-nias-stu
Tuesday near Singapore, SingaporeA clear, concise and blunt summary of what Thai royalism means:
http://www.foreignaffairs.com/articles/137252/edited-by-soren-ivarsson-and-lotte-isager/saying-the-unsayable-monarchy-and-democracy-in-thailand-nias-stu
The contributors direct an unillusioned gaze at the mystique of the Thai monarchy.
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 (edited) - Public
ความจริงที่ถูกบดบังด้วยมายายภาพ ที่หลอกกันมานาน
Andrew MacGregor Marshall shared a link.
Yesterday near Singapore, Singapore
The comic chapter on sufficiency economy by Chris Baker in "King Bhumibol Adulyadej: A Life's Work" available online thanks to the great generosity of the Crown Property Bureau. If you want a shorter summary of sufficiency economy, here's mine: It's not a theory, just a statement of the obvious fact that moderation and sensible behaviour tend to be more advisable than being rash and reckless. And Thai royalists should follow this principle too - it's time for Sufficiency Monarchy.
https://www.facebook.com/djinn.nine/posts/321845834542980
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=334679179914836&set=o.161019180678792
Andrew MacGregor Marshall shared a link.
Yesterday near Singapore, Singapore
The comic chapter on sufficiency economy by Chris Baker in "King Bhumibol Adulyadej: A Life's Work" available online thanks to the great generosity of the Crown Property Bureau. If you want a shorter summary of sufficiency economy, here's mine: It's not a theory, just a statement of the obvious fact that moderation and sensible behaviour tend to be more advisable than being rash and reckless. And Thai royalists should follow this principle too - it's time for Sufficiency Monarchy.
https://www.facebook.com/djinn.nine/posts/321845834542980
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=334679179914836&set=o.161019180678792
More photos from KP Page
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 - Public
Status Update
By สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ประเด็นหนึงที่ผมพยายามเสนอ ไม่แน่ใจว่า ทำได้ดีไหม คือ
1. ณ จุดนี้ ผมคิดว่า ทุกคนที่เห็นด้วยว่า ปัญหาสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ปัจุบัน เป็นปัญหาสำคัญที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตยไทย ควรจะต้องลองมาคิดทบทวนในแง่ที่ยาวออกไป
2. คงเป็นเวลาอีกนาน กว่านักการเมือง พรรคการเมือง หรือ รัฐสภา / รัฐบาล จะมีโอกาสมาแตะประเด็นนี้ ตอนนี้และอีกหลายปีนับจากนี้ ทุกฝ่าย พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะ ไม่แตะต้องประเด็นนี้โดยเด็ดขาด
3. โดยสภาพการณ์ทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ ปัญญาชน นักวิชาการ แอ๊คติวิสต์ นักเขียน ฯลฯ จะต้องรับภาระเป็น ผู้ "ผยุง" หรือ "หล่อเลี้ยง" ความสำคัญเรื่องนี้
4. ในสถานการณ์ที่เรื่องนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถ้าจะมีความเปลียนแปลง และในภาวะที่ ปัญญาชน นักวิชาการ ฯลฯ จะต้องมีภาระสำคัญดังทีกล่าวในข้อ 3 ผมจึงเสนอว่า ควรที่จะคิด สร้าง "องค์กร" ที่มีลักษณะ "ถาวร" ในระยะยาวขึ้น อุทิศให้กับเรื่อง การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างรอบด้าน
ที่ผมเสนอเป็นรูปธรรมให้ คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก. 112) ลองคิดดูคือ หลังการ "ล่ารายชือ" ครั้งนี - ซึงผมมองว่า คงยากจะเลี่ยงว่า คงจบแบบไม่ไปถึงไหน คือ สภาคงไม่รับแน่นอน อาจจะ (ตามที่ผมเดา) จบแต่แรกเลย คือ ประธานสภา อาจจะ "วินิจฉัย" ว่า "ไม่เข้าข่ายการเสนอ ร่าง พรบ.ตามรัฐธรรมนูญ" (ทีระบุว่า ประชาชนเข้าชื่อ 1 หมื่นชือ เสนอได้ในบางหมวด เท่านั้น คือ หมวดสิทธิเสรีภาพ - ซึงประธานสภา คงตีความวา 112 ไมใช่หมวดดังกล่าว)
และในเมื่อ นักวิชาการ ครก.112 บางท่าน ก็ได้แสดงเจตจำนงที่จะทำงานเรื่องนีต่อ
ผมก็เสนอว่า น่าจะ "ปรับองค์กร" หรือ พูดให้ถูกคือ "ปรับภารกิจ" จากเรือ่ง 112 เป็นเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างรอบด้าน (ในระยะยาว)
เรา (หมายถึงคนที่เห็นความสำคัญของเรืองนี้ ดังกล่าวในข้อ 1 และโดยเฉพาะปัญญาชน ฯลฯ ตามที่พูดในข้อ 3) "ยังมีเรือ่งที่ต้องทำอีกมาก" ตังแต่ระดับ การ "ระดม/สร้างองค์ความรู้" ในเรื่องเกียวกับสถาบันฯ และเผยแพร่ความรุ้ ทำความเข้าใจต่อสาธารณะ
อันที่จริง เมือเทียบกับความสำคัญของภาระกิจดังกล่าวแล้ว องค์กร (หรือ พูดให้เหมาะกว่าอาจจะเรียกว่ "เครือข่าย") ในลักษณะนี้ ควรจะมีมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำ
แต่ไม่เป็นไร เริ่มตอนนี้ก็ยังมีเรือ่งต้องทำอีกมาก และอีกนาน
.........................
คือ ผมคิดว่า เวลานี้ เป็นเวลาที่เราควรมาคิดเรือ่งนี้อย่างซีเรียสจริงจัง
หลังจาก "คณะราษฎร" ล้มเหลวในเรื่องนี้ (จะต้องมีความล้มเหลวบางอย่างแน่ จึงมีสภาพในปัจจุบันได้)
หลังจาก คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ต่อสู้กันมา สูญเสียกันมาอย่างประเมินไม่ได้ (ตั้งแต่อิสรภาพ ถึงชีวิต)
จนบัดนี้ สังคมไทย ก็ยัง "ติดหล่ม" อยู่กับเรืองอำนาจและสถานะของสถาบันกษัตริย์
ผมไม่คิดว่า เราควร "ปล่อย" ให้เรือ่งนี้ เป็นเรื่อง "แล้วแต่สถานการณ์" "มีประเด็นขึ้นมาเมือ่ไร ก็มารวมตัวกันทีหนึง เสนอะไรทีหนึ่ง" (มีเรือ่ง อากง, มีเรือ่ง คนโดน 112 กันมาก ฯลฯ) อย่างที่ผ่านๆมา
หรือไม่ใช่เป็นเพียงแต่ "รอ" ให้มีการ "เปลี่ยนผ่าน" อะไร "ค่อยมาว่ากันใหม่"
(ยิ่งไม่ต้องคิดถึงว่า "รอ" จนกว่า บรรดานักการเมือง พรรคการเมือง หรือขบวนการที่สังกัดพรรคการเมือง อย่าง นปช. จะรู้สึก"พร้อม" ที่จะมา"แตะ" เรือ่งนี้)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317044008348885&id=100001298657012
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317048038348482&id=100001298657012
Collapse this postBy สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ประเด็นหนึงที่ผมพยายามเสนอ ไม่แน่ใจว่า ทำได้ดีไหม คือ
1. ณ จุดนี้ ผมคิดว่า ทุกคนที่เห็นด้วยว่า ปัญหาสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ปัจุบัน เป็นปัญหาสำคัญที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตยไทย ควรจะต้องลองมาคิดทบทวนในแง่ที่ยาวออกไป
2. คงเป็นเวลาอีกนาน กว่านักการเมือง พรรคการเมือง หรือ รัฐสภา / รัฐบาล จะมีโอกาสมาแตะประเด็นนี้ ตอนนี้และอีกหลายปีนับจากนี้ ทุกฝ่าย พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะ ไม่แตะต้องประเด็นนี้โดยเด็ดขาด
3. โดยสภาพการณ์ทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ ปัญญาชน นักวิชาการ แอ๊คติวิสต์ นักเขียน ฯลฯ จะต้องรับภาระเป็น ผู้ "ผยุง" หรือ "หล่อเลี้ยง" ความสำคัญเรื่องนี้
4. ในสถานการณ์ที่เรื่องนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถ้าจะมีความเปลียนแปลง และในภาวะที่ ปัญญาชน นักวิชาการ ฯลฯ จะต้องมีภาระสำคัญดังทีกล่าวในข้อ 3 ผมจึงเสนอว่า ควรที่จะคิด สร้าง "องค์กร" ที่มีลักษณะ "ถาวร" ในระยะยาวขึ้น อุทิศให้กับเรื่อง การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างรอบด้าน
ที่ผมเสนอเป็นรูปธรรมให้ คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก. 112) ลองคิดดูคือ หลังการ "ล่ารายชือ" ครั้งนี - ซึงผมมองว่า คงยากจะเลี่ยงว่า คงจบแบบไม่ไปถึงไหน คือ สภาคงไม่รับแน่นอน อาจจะ (ตามที่ผมเดา) จบแต่แรกเลย คือ ประธานสภา อาจจะ "วินิจฉัย" ว่า "ไม่เข้าข่ายการเสนอ ร่าง พรบ.ตามรัฐธรรมนูญ" (ทีระบุว่า ประชาชนเข้าชื่อ 1 หมื่นชือ เสนอได้ในบางหมวด เท่านั้น คือ หมวดสิทธิเสรีภาพ - ซึงประธานสภา คงตีความวา 112 ไมใช่หมวดดังกล่าว)
และในเมื่อ นักวิชาการ ครก.112 บางท่าน ก็ได้แสดงเจตจำนงที่จะทำงานเรื่องนีต่อ
ผมก็เสนอว่า น่าจะ "ปรับองค์กร" หรือ พูดให้ถูกคือ "ปรับภารกิจ" จากเรือ่ง 112 เป็นเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างรอบด้าน (ในระยะยาว)
เรา (หมายถึงคนที่เห็นความสำคัญของเรืองนี้ ดังกล่าวในข้อ 1 และโดยเฉพาะปัญญาชน ฯลฯ ตามที่พูดในข้อ 3) "ยังมีเรือ่งที่ต้องทำอีกมาก" ตังแต่ระดับ การ "ระดม/สร้างองค์ความรู้" ในเรื่องเกียวกับสถาบันฯ และเผยแพร่ความรุ้ ทำความเข้าใจต่อสาธารณะ
อันที่จริง เมือเทียบกับความสำคัญของภาระกิจดังกล่าวแล้ว องค์กร (หรือ พูดให้เหมาะกว่าอาจจะเรียกว่ "เครือข่าย") ในลักษณะนี้ ควรจะมีมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำ
แต่ไม่เป็นไร เริ่มตอนนี้ก็ยังมีเรือ่งต้องทำอีกมาก และอีกนาน
.........................
คือ ผมคิดว่า เวลานี้ เป็นเวลาที่เราควรมาคิดเรือ่งนี้อย่างซีเรียสจริงจัง
หลังจาก "คณะราษฎร" ล้มเหลวในเรื่องนี้ (จะต้องมีความล้มเหลวบางอย่างแน่ จึงมีสภาพในปัจจุบันได้)
หลังจาก คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ต่อสู้กันมา สูญเสียกันมาอย่างประเมินไม่ได้ (ตั้งแต่อิสรภาพ ถึงชีวิต)
จนบัดนี้ สังคมไทย ก็ยัง "ติดหล่ม" อยู่กับเรืองอำนาจและสถานะของสถาบันกษัตริย์
ผมไม่คิดว่า เราควร "ปล่อย" ให้เรือ่งนี้ เป็นเรื่อง "แล้วแต่สถานการณ์" "มีประเด็นขึ้นมาเมือ่ไร ก็มารวมตัวกันทีหนึง เสนอะไรทีหนึ่ง" (มีเรือ่ง อากง, มีเรือ่ง คนโดน 112 กันมาก ฯลฯ) อย่างที่ผ่านๆมา
หรือไม่ใช่เป็นเพียงแต่ "รอ" ให้มีการ "เปลี่ยนผ่าน" อะไร "ค่อยมาว่ากันใหม่"
(ยิ่งไม่ต้องคิดถึงว่า "รอ" จนกว่า บรรดานักการเมือง พรรคการเมือง หรือขบวนการที่สังกัดพรรคการเมือง อย่าง นปช. จะรู้สึก"พร้อม" ที่จะมา"แตะ" เรือ่งนี้)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317044008348885&id=100001298657012
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317048038348482&id=100001298657012
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลได้เขียน: ประเด็นหนึงที่ผมพยายามเสนอ ไม่แน่ใจว่า... เข้าร่วม Facebook เพื่อติดต่อกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลและคนอื่นๆ ที่คุณอาจจะรู้จัก
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 (edited) - Public
Status Update
By สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ประเทศไทย มี "องค์กร เอ็นจีโอ" ที่ อุทิศ ให้กับสารพัดเรื่อง มีกลุ่มนักวิชาการที่ตั้งขึน แบบกึงเฉพาะกิจ กึ่งถาวร หลายต่อหลายกลุ่ม
เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญ ความยากลำบาก การต้องใช้เวลายาวนาน
เรื่องการ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ผมมองไม่เห็นว่า เหตุใด เราจึงไม่ควรจะมี "องค์กร" หรือ "เครือข่ายขององค์กร" แบบ "ถาวร" แบบ "เอ็นจีโอ" ทีอุทิศให้กับภารกิจเรือ่งนี้โดยเฉพาะ บ้างไม่ได้
ยิ่งในช่วงทีอย่างไรก็้ต้องมีปัญหา "เปลี่ยนผ่าน" ทีหลายคนพูดๆกัน
ผมคิดว่า ยิ่งไม่มีช่วงไหน ที่จำเป็นและเหมาะสมมากเท่าช่วงนี้อีกแล้ว
ผมเชื่อว่า มีคนในประเทศไทยตอนนี้ (และคนไทยในต่างประเทศ หรืออาจรวมถึงชาวต่างประเทศที่ห่วงใยประเทศไทย) เป็นหมื่นๆ หรือ อาจจะเป็นแสน ที่มองเห็นว่า สถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (หรือที่เป็นมาหลายสิบปี)
เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งทีต้องแก้
ปัญหาคือ ตลอดเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา เรื่องนี้ ไม่เคยได้รับการนำเสนอ ไม่เคยได้รับการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง ถาวร
ในอดีต อาจจะบอกว่า เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจาก ปัจเจกชนบางคน จะทำกันอย่างกระจัดกระจาย
แต่ผมเห็นว่า ไม่มีช่วงไหนในประวัติศาสตร์ ที่จะเหมาะสม ทีจะเริ่มคิดอย่างจริงจังเสียทีว่า
ควรทีจะต้องทำให้ "เสียง" ของคนที่เห็นว่า สถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ จะต้องได้รับการปฏิรูป ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง
เป็นรูปเป็นร่าง เป็น "ขบวนการ" ที่มีลักษณะถาวรขึ้นมา
..............
"เครือข่ายนักวิชาการ-ประชาชน เพื่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้เป็นประชาธิปไตย" - ชื่ออะไรทำนองนี้ ก็ไม่เลว ในความคิดผม
แต่เรือ่งชื่อ ยังไม่สำคัญเท่ากับเริ่มต้น หาทางทำให้เรื่องนี้เป็นจริง
..............
หลังจาก 80 ปี ที่ประเทศไทย ไม่เคยแก้ปัญหาหรือจัดการเรื่องสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ ให้ตกไป อย่างสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย
ผมว่า สิ่งที่เราจะทำเผื่อไว้ให้คนรุ่นต่อๆมาได้ดีทีสุดตอนนี้คือ เริ่มต้นการก่อรูป รวบรวมกำลังคน กำลังปัญญา เพื่อปูทางให้กับการแก้ปัญหานี้อย่างถาวรในอนาคต ให้ประเทศไทย พ้นจาก "หล่ม" ปัญหานี้ให้ได้ในอนาคต
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317056175014335&id=100001298657012
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317053338347952&id=100001298657012
Collapse this postBy สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ประเทศไทย มี "องค์กร เอ็นจีโอ" ที่ อุทิศ ให้กับสารพัดเรื่อง มีกลุ่มนักวิชาการที่ตั้งขึน แบบกึงเฉพาะกิจ กึ่งถาวร หลายต่อหลายกลุ่ม
เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญ ความยากลำบาก การต้องใช้เวลายาวนาน
เรื่องการ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ผมมองไม่เห็นว่า เหตุใด เราจึงไม่ควรจะมี "องค์กร" หรือ "เครือข่ายขององค์กร" แบบ "ถาวร" แบบ "เอ็นจีโอ" ทีอุทิศให้กับภารกิจเรือ่งนี้โดยเฉพาะ บ้างไม่ได้
ยิ่งในช่วงทีอย่างไรก็้ต้องมีปัญหา "เปลี่ยนผ่าน" ทีหลายคนพูดๆกัน
ผมคิดว่า ยิ่งไม่มีช่วงไหน ที่จำเป็นและเหมาะสมมากเท่าช่วงนี้อีกแล้ว
ผมเชื่อว่า มีคนในประเทศไทยตอนนี้ (และคนไทยในต่างประเทศ หรืออาจรวมถึงชาวต่างประเทศที่ห่วงใยประเทศไทย) เป็นหมื่นๆ หรือ อาจจะเป็นแสน ที่มองเห็นว่า สถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (หรือที่เป็นมาหลายสิบปี)
เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งทีต้องแก้
ปัญหาคือ ตลอดเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา เรื่องนี้ ไม่เคยได้รับการนำเสนอ ไม่เคยได้รับการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง ถาวร
ในอดีต อาจจะบอกว่า เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจาก ปัจเจกชนบางคน จะทำกันอย่างกระจัดกระจาย
แต่ผมเห็นว่า ไม่มีช่วงไหนในประวัติศาสตร์ ที่จะเหมาะสม ทีจะเริ่มคิดอย่างจริงจังเสียทีว่า
ควรทีจะต้องทำให้ "เสียง" ของคนที่เห็นว่า สถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ จะต้องได้รับการปฏิรูป ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง
เป็นรูปเป็นร่าง เป็น "ขบวนการ" ที่มีลักษณะถาวรขึ้นมา
..............
"เครือข่ายนักวิชาการ-ประชาชน เพื่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้เป็นประชาธิปไตย" - ชื่ออะไรทำนองนี้ ก็ไม่เลว ในความคิดผม
แต่เรือ่งชื่อ ยังไม่สำคัญเท่ากับเริ่มต้น หาทางทำให้เรื่องนี้เป็นจริง
..............
หลังจาก 80 ปี ที่ประเทศไทย ไม่เคยแก้ปัญหาหรือจัดการเรื่องสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ ให้ตกไป อย่างสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย
ผมว่า สิ่งที่เราจะทำเผื่อไว้ให้คนรุ่นต่อๆมาได้ดีทีสุดตอนนี้คือ เริ่มต้นการก่อรูป รวบรวมกำลังคน กำลังปัญญา เพื่อปูทางให้กับการแก้ปัญหานี้อย่างถาวรในอนาคต ให้ประเทศไทย พ้นจาก "หล่ม" ปัญหานี้ให้ได้ในอนาคต
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317056175014335&id=100001298657012
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=317053338347952&id=100001298657012
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลได้เขียน: ผมเชื่อว่า มีคนในประเทศไทยตอนนี้... เข้าร่วม Facebook เพื่อติดต่อกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลและคนอื่นๆ ที่คุณอาจจะรู้จัก
- Comment - Hang out - Share
KP Page
KP Page - Mar 22, 2012 - Public
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
Tuesday
แหม ยังเห็นข่าวเรื่อง "ผู้มีบารมี" ทีธีรยุทธ พูดถึง กรณีเปรม อยู่นะ
นี่พูดจริงๆ เปรมน่ะ โดยลำพังตัวเองนี่ ฝรั่งไม่เรียกว่ามี charisma (ที่ไทยแปลว่า "มีบารมี") หรอก ทั้งความสามารถในการบริหาร หรือไอเดีย อะไร ก็ไม่เด่นเลย - ผู้นำบางคนอย่างจอมพล ป หรือ คึกฤทธิ์ นี่ยังพอจะบอกได้ว่ามีอยู่
อันนี้ไมใช่มีอคติเลยครับ คึกฤทธิ์นี่ ผมก็ไมใช่เป็นแฟนอะไร แต่พูดแบบประเมินในฐานะคนศึกษาประวัติศาสตร์จริงๆ
เรื่อง "ความมีเสน่ห์" เปรม ก็ไม่มี - จอมพล ป. นี่ ลือชื่อมาก ว่า เป็นคนมีเสน่ห์
ที่อาจจะมีคุณสมบัติที่พอนึกได้ ของเปรม ก็อาจจะประเภท "เลือดเย็น" เจ้าคิดเจ้าแค้น อะไรแบบนั้นมากกว่า
สรุปแล้ว "บารมี" หรือ charisma นั้น เปรม ไม่มีหรอก
ที่ "รู้สึก" กันว่า เปรม มี เพราะ "ปัจจัย" อื่นครับ
ดูภาพประกอบกันเอาเองก้อแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก
ลำดับภาพจาก ซ้าย ไป ขวา :
ในหลวงพระราชทานดอกบัว จากสระในวังสวนจิตรลดา ให้เปรม วันที่ 4 สิงหาคม 2525;
พระราชินีเสด็จฯเยี่ยมเปรม ที่กำลัง "ป่วย" ที่บ้านพักสี่เสาของเปรม (เสด็จฯแทนพระองค์ในหลวง) วันที่ 31 สิงหาคม 2527;
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ขับรถด้วยพระองค์เอง ไปส่งเปรมที่บ้านพักสี่เสา (ขับจากสนามบิน หลังจากเดินทางกลับมาจากสกลนครด้วยกัน) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2527
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=318191581567461&set=a.137616112958343.44289.100001298657012
Collapse this postTuesday
แหม ยังเห็นข่าวเรื่อง "ผู้มีบารมี" ทีธีรยุทธ พูดถึง กรณีเปรม อยู่นะ
นี่พูดจริงๆ เปรมน่ะ โดยลำพังตัวเองนี่ ฝรั่งไม่เรียกว่ามี charisma (ที่ไทยแปลว่า "มีบารมี") หรอก ทั้งความสามารถในการบริหาร หรือไอเดีย อะไร ก็ไม่เด่นเลย - ผู้นำบางคนอย่างจอมพล ป หรือ คึกฤทธิ์ นี่ยังพอจะบอกได้ว่ามีอยู่
อันนี้ไมใช่มีอคติเลยครับ คึกฤทธิ์นี่ ผมก็ไมใช่เป็นแฟนอะไร แต่พูดแบบประเมินในฐานะคนศึกษาประวัติศาสตร์จริงๆ
เรื่อง "ความมีเสน่ห์" เปรม ก็ไม่มี - จอมพล ป. นี่ ลือชื่อมาก ว่า เป็นคนมีเสน่ห์
ที่อาจจะมีคุณสมบัติที่พอนึกได้ ของเปรม ก็อาจจะประเภท "เลือดเย็น" เจ้าคิดเจ้าแค้น อะไรแบบนั้นมากกว่า
สรุปแล้ว "บารมี" หรือ charisma นั้น เปรม ไม่มีหรอก
ที่ "รู้สึก" กันว่า เปรม มี เพราะ "ปัจจัย" อื่นครับ
ดูภาพประกอบกันเอาเองก้อแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก
ลำดับภาพจาก ซ้าย ไป ขวา :
ในหลวงพระราชทานดอกบัว จากสระในวังสวนจิตรลดา ให้เปรม วันที่ 4 สิงหาคม 2525;
พระราชินีเสด็จฯเยี่ยมเปรม ที่กำลัง "ป่วย" ที่บ้านพักสี่เสาของเปรม (เสด็จฯแทนพระองค์ในหลวง) วันที่ 31 สิงหาคม 2527;
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ขับรถด้วยพระองค์เอง ไปส่งเปรมที่บ้านพักสี่เสา (ขับจากสนามบิน หลังจากเดินทางกลับมาจากสกลนครด้วยกัน) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2527
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=318191581567461&set=a.137616112958343.44289.100001298657012
More photos from KP Page
No comments:
Post a Comment