Voices of Siam
นสพ. เนชั่นได้ตั้งข้อสังเกตอย่างน่าสนใจว่า การรัฐประหารโดย คปค. (คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับ "เลข 9" ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามีเจตนามากน้อยเพียงใด เช่น
- วันที่ทำการรัฐประหาร = วันที่ 19 เดือน 9 ปี 2549
- เวลาในการแถลงข่าว = 9 โมง 39 นาที
- เวลาในการเข้าเฝ้าฯ = 00.19 น. (เที่ยงคืน 19 นาที)
ส่วนที่บังเอิญที่โยงกับ "เลข 9" ก็มี เช่น
- ตัวเลขที่ตลาดหุ้น 9.99
- ตัวเลขคาดการการเติบโดตของเศรษฐกิจในปีนั้น 4.9
ที่มาของ "เลข 9" นี้อาจมาจากความเชื่อแบบไทยๆว่าเป็นเลขมงคล, คำทำนายของโหร, หรือ อาจเชื่อมโยงกับปัจจัยอื่น ซึ่งไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างแน่ชัด
อนึ่ง ในอดีต "เลข 9" นี้ก็เคยถูกนำมาใช้ในทางการเมืองมาแล้ว แต่อาจด้วยเหตุผลที่ต่างกัน เช่น ขบวนการนวพล (พลัง 9) ที่มีส่วนในการฆาตกรรมหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงปี 2519
ที่มา: http://nationmultimedia.com/2006/09/27/opinion/opinion_30014753.php
http://thaienews.blogspot.co.uk/2012/09/61949_15.html
ที่ประกอบ: http://talk.mthai.com/topic/26939
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=462712673751552&set=a.311169832239171.73183.311158728906948
นสพ. เนชั่นได้ตั้งข้อสังเกตอย่างน่าสนใจว่า การรัฐประหารโดย คปค. (คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับ "เลข 9" ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามีเจตนามากน้อยเพียงใด เช่น
- วันที่ทำการรัฐประหาร = วันที่ 19 เดือน 9 ปี 2549
- เวลาในการแถลงข่าว = 9 โมง 39 นาที
- เวลาในการเข้าเฝ้าฯ = 00.19 น. (เที่ยงคืน 19 นาที)
ส่วนที่บังเอิญที่โยงกับ "เลข 9" ก็มี เช่น
- ตัวเลขที่ตลาดหุ้น 9.99
- ตัวเลขคาดการการเติบโดตของเศรษฐกิจในปีนั้น 4.9
ที่มาของ "เลข 9" นี้อาจมาจากความเชื่อแบบไทยๆว่าเป็นเลขมงคล, คำทำนายของโหร, หรือ อาจเชื่อมโยงกับปัจจัยอื่น ซึ่งไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างแน่ชัด
อนึ่ง ในอดีต "เลข 9" นี้ก็เคยถูกนำมาใช้ในทางการเมืองมาแล้ว แต่อาจด้วยเหตุผลที่ต่างกัน เช่น ขบวนการนวพล (พลัง 9) ที่มีส่วนในการฆาตกรรมหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงปี 2519
ที่มา: http://nationmultimedia.com/2006/09/27/opinion/opinion_30014753.php
http://thaienews.blogspot.co.uk/2012/09/61949_15.html
ที่ประกอบ: http://talk.mthai.com/topic/26939
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=462712673751552&set=a.311169832239171.73183.311158728906948
Pegasusfire Michael
ส่วนความลับ 01 02 กรุงเทพฯ 006170
SIPDIS
SIPDIS
E.O. 12958: DECL: 2017/12/17
TAGS: KDEM PGOV พุ่ม PREL TH
SUBJECT: ผู้นำของพันธมิตร ต่อต้านทักษิณวิจารณ์ รุนแรงเรื่อง
สนธิ สุรยุทธ เรื่องแนวทางการเลือกตั้ง
REF: A. กรุงเทพฯ 6069
B. กรุงเทพฯ 6159
จำแนกชั้นความลับโดย: เอกอัครราชทูตราล์ฟแอลบอยซ์,
สาเหตุ 1.4 (ข) และ (ง)
1 ข้อมูลอย่างย่อ (C) ใน 14 ธันวาคม เอกอัครราชทูต
ได้เข้าพูดคุยกับสมาชิก พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ
ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ต่อต้านทักษิณอย่างแข็งขัน เล่าให้เอกอัครข้าราชทูตฟังว่า
การเลือกตั้งของไทยมีแนวโน้มที่จะมีผลในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
สำหรับทหาร เพราะฝ่ายสนับสนุนทักษิณ
พรรคพลังประชาชน จะอยู่ในฐานะจะตั้งรัฐบาลใหม่
ในทางกลับกันถ้าพรรคพลังประชาชน ถูกโดดเดียว ออกมาจากการตั้งรัฐบาล
แม้จะได้รับการเลือกมากที่สุด ประชาชนที่ลงคะแนนให้ (พรรคพลังประชาชน)
ที่ก่อหวอดอาจสร้างปัญหาได้
ประสงค์วิจารณ์ นายก สุรยุทธ์และรอง นายกสนธิ สำหรับผลงานที่ไม่ได้เรื่อง
ในการบริหารประเทศไทย หลังรัฐประหาร- เขาชี้ให้เห็นว่าสนธิ มีแนวโน้ม
ที่จะโอนเสียงสนับสนุน (ของบิ๊กบัง) ให้กับพรรคมาตุภูมิ และได้วางแผน
ที่จะนำเงินจากการจัดซื้ออาวุธ (เงินใต้โต๊ะ) ไปทำเช่นนั้น (ซื้อเสียงให้พรรคมาตุภูมิ)
สรุปส่งท้าย
การเลือกตั้งจะนำไปสู่การติดหล่ม
----------------------------
2 (C) ในการพูดคุย 14 ธันวาคม กับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
(สมาชิกที่ สนธิ บัง แต่งตั้ง) สมาชิกสภา ที่มีอิทธิพลที่สุดคือ ประสงค์ สุ่นศิริ
เล่าให้ เอกอัครราชทูตฟังว่า แนวโน้มไม่ค่อยสดใส เพราะถ้าหากพลังประชาชน
ชนะถล่มทลายตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เป็นไปตามที่โพลล์
แต่ไม่สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากพรรคอื่น
บรรดาผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชน น่าจะก่อหวอดประท้วงแน่นอน
ทำให้เกิดความไม่สงบ
ประสงค์สรุปว่า ในตรงกันข้ามทหารจะ อึดอัดยากลำบาก
และคงไม่ยอมรับรัฐบาลพรรคพลังประชาชน
3 (C) ประสงค์ ยังวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลหลังรัฐประหาร-
นายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์และรองนายกรัฐมนตรี สนธิ บุญ
สนธิรู้วิธีที่จะโค่นรัฐบาล แต่ไร้ความสามารถในการดำเนินตามแผนบันไดสี่ขั้น
ประสงค์บ่นว่า สนธิควรจะพยายามที่จะอธิบายเหตุผล ของการรัฐประหาร
เพื่อโน้มน้าวคนไทย (ให้เลิกสนับสนุนทักษิณ)
ส่วน สุรยุทธ์, ประสงค์กล่าวว่า นายก ควรจะมีความมุ่งมั่นที่จะพยายามตรวจสอบ
การคอร์รัปชั่นโดยทักษิณ
นอกจากนี้ความพยายามของรัฐบาล (สุรยุทธ) เกี่ยวกับกฎหมายต่างประเทศ
เช่นพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ (FBA), พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคง
ภายใน(ISA) และบังคับใช้สิทธิยา เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า ประสงค์บ่น
(สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของรัฐบาลไทย ในสายตาต่างประเทศ)
และการเลือกตั้งทั่วไปที่จะถึงนี้ สนธิและสุรยุทธ์ ควรจะพยายามให้มากขึ้น
ในเชิงรุก เพื่อการจูงใจคนไทยต้องเลือกผู้สมัครที่ไม่ใช่พรรคพลังประชาชน
หัวหน้าพรรค มัณชิมา ไม่ใช่นักการเมือง
4 (C) เอกอัครราชทูต เอ่ยถึงเรื่อง ชะตากรรมของ หัวหน้าพรรค
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ พรรคมัณชิมา ที่มีปัญหาทางกฎหมาย
และต้องการเลี่ยงปัญหาโดยการกระโจนเข้าสู่การเมือง (Ref A)
ประสงค์เล่าว่า การฟัดกันภายในพรรคมัณชิมา (คงจำกันได้ ล่อกันฝุ่นตลบ
แต่คนแปลจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนเอาน้ำร้อนสาดถึงจบ)
แสดงให้เห็นบุคลิคของประชัยว่า ไม่มีทักษะในทางการเมืองเสียเลย
ประชัยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ที่จะใช้เงินปูทางเข้ามาสู่อำนาจทางการเมืองให้โดดเด่น
แตกต่างกับทักษิณ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้บนเวทีการเมือง
ประชัย ได้ทำตัวเป็นประโยชน์ ในช่วงต้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณ
แต่หลังจากที่มีปัญหาทางกฎหมาย ก็เปลี่ยนเป็นตัวไร้สาระ
นายประสงค์ด่าทิ้งท้าย
สนธิผุ้อยุ่เบื้องหลัง พรรคมาตุภูมิ?
-------------------------------------------------
5 (C) เอกอัครราชทูต ถาม ประสงค์ ให้ประเมินว่าใครเป็นผู้สนับสนุน
ทางการเงินของพรรคมาตุภูมิ
(หมายเหตุ: มีหลักฐานชี้ว่าพรรคมาตุภูมิได้รับเงินการสนับสนุนจากบุคคล
ที่มีเป็นทหาร สิ้นสุดหมายเหตุ.)
ประสงค์ เล่าว่า หลายเดือนที่ผ่านมา สนธิ (บัง) ได้มาหาเขาและเล่าให้ฟังว่า
สนธิากำลังพิจารณาที่สนับสนุน
ขจิต หัพนานนท์ หัวหน้าพรรครักชาติ สนธิระบุว่าเขาจะต้องใช้เงินประมาณ
2 พันล้านบาท (60 ล้านดอลล่าร์) เพื่อสร้างพรรคขึ้นมา
กองทัพบกไทย รีบเปิดการเจรจาต่อรองการซื้อรถหุ้มเกราะ APC จากยูเครน
ในการจัดซื้อนี้ เปิดโอกาสให้ สนธิ รับเงินสด 2 พันล้านบาท
จากที่ประมูลราคาสูงเกินจริง 4 พันล้านบาท
แต่เครื่องบิน One-Two-Go ตกในจังหวัดภูเก็ต
เมื่อ กันยายน 16, 2007, มีผลให้ตัวเลขเปลี่ยนแปลง,
กรุงเทพฯ 00006170 002 ของ 002
เนื่องจาก ขจิต เป็นซีอีโอของสายการบิน
ประสงค์ยอมรับว่าเขาไม่มีหลักฐาน แต่เขาเชื่อว่าในที่สุดสนธิ
คงจะหันไปสนับสนุนพรรคมาตุภูมิแทน
(หมายเหตุ: ตามแหล่งข่าวของเรา การขายรถหุ้มเกราะ APC
ถูกระงับไว้ก่อนโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
โดยจะนำมาตัดสินใจโดยรัฐบาล ใหม่ ซึ่งทำให้พรรคมาตุภูมิ มีปัญหาเฉพาะหน้า
ในเรื่องเงินสนับสนุน โดยไม่คาดคิด End)
VCD ทักษิณ ยุทธวิธียอดเยี่ยม แต่ผิดกฎหมาย
------------------------------
¶ 6 (C) เอกอัครราชทูตยังถามเรื่องล่าสุดของ VCD ที่ทักษิณ
ที่ปราศรัยทางการเมือง สภาพการเมืองในประเทศไทย
(Ref B. )ประสงค์เล่าว่าแผ่น VCD เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เป็นยุทธวิธี
ทางการเมืองที่ฉลาด ทักษิณ ได้เล่าเรื่องความจริงที่ปวดร้าว
ว่ารัฐบาลปัจจุบัน ไม่สามารถที่จะแก้ไขความยากลำบากคนไทยเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้
ประสงค์เน้นย้ำความเชื่อว่า รัฐบาลปัจจุบัน ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับกฎหมายเช่น
FBA (กฏหมายธุรกิจการค้าต่างประเทศ)หรือ ISA (กฏหมายความมั่นคงภายใน)
แทนที่จะเน้นการเตรียมความพร้อมของประชาชนไทยสำหรับการเลือกตั้ง
ความเห็น
-------
¶ 7 (C) เหมือน ๆ กับบรรดาผู้ที่สนับสนุนการทำรัฐประหาร,
ประสงค์ผิดหวังเมื่อรู้ว่าบางสิ่งไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรือหวังไว้
กับ สนธิ (บัง) และ สุรยุทธ์ (ขิงแก่ ของเฮียบอด)
ทางเรา (เอกอัครข้าราชทูต) ไม่แสดงความเห็นทางเรา เกี่ยวกับ
เรื่องเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ไม่ว่าใครชนะก็ตาม
ต้องเผชิญกับความท้าทายยุ่งยากที่รุนแรง ในการจัดการกับผู้แพ้
Boyce
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=272408669545755&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
ส่วนความลับ 01 02 กรุงเทพฯ 006170
SIPDIS
SIPDIS
E.O. 12958: DECL: 2017/12/17
TAGS: KDEM PGOV พุ่ม PREL TH
SUBJECT: ผู้นำของพันธมิตร ต่อต้านทักษิณวิจารณ์ รุนแรงเรื่อง
สนธิ สุรยุทธ เรื่องแนวทางการเลือกตั้ง
REF: A. กรุงเทพฯ 6069
B. กรุงเทพฯ 6159
จำแนกชั้นความลับโดย: เอกอัครราชทูตราล์ฟแอลบอยซ์,
สาเหตุ 1.4 (ข) และ (ง)
1 ข้อมูลอย่างย่อ (C) ใน 14 ธันวาคม เอกอัครราชทูต
ได้เข้าพูดคุยกับสมาชิก พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ
ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ต่อต้านทักษิณอย่างแข็งขัน เล่าให้เอกอัครข้าราชทูตฟังว่า
การเลือกตั้งของไทยมีแนวโน้มที่จะมีผลในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
สำหรับทหาร เพราะฝ่ายสนับสนุนทักษิณ
พรรคพลังประชาชน จะอยู่ในฐานะจะตั้งรัฐบาลใหม่
ในทางกลับกันถ้าพรรคพลังประชาชน ถูกโดดเดียว ออกมาจากการตั้งรัฐบาล
แม้จะได้รับการเลือกมากที่สุด ประชาชนที่ลงคะแนนให้ (พรรคพลังประชาชน)
ที่ก่อหวอดอาจสร้างปัญหาได้
ประสงค์วิจารณ์ นายก สุรยุทธ์และรอง นายกสนธิ สำหรับผลงานที่ไม่ได้เรื่อง
ในการบริหารประเทศไทย หลังรัฐประหาร- เขาชี้ให้เห็นว่าสนธิ มีแนวโน้ม
ที่จะโอนเสียงสนับสนุน (ของบิ๊กบัง) ให้กับพรรคมาตุภูมิ และได้วางแผน
ที่จะนำเงินจากการจัดซื้ออาวุธ (เงินใต้โต๊ะ) ไปทำเช่นนั้น (ซื้อเสียงให้พรรคมาตุภูมิ)
สรุปส่งท้าย
การเลือกตั้งจะนำไปสู่การติดหล่ม
----------------------------
2 (C) ในการพูดคุย 14 ธันวาคม กับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
(สมาชิกที่ สนธิ บัง แต่งตั้ง) สมาชิกสภา ที่มีอิทธิพลที่สุดคือ ประสงค์ สุ่นศิริ
เล่าให้ เอกอัครราชทูตฟังว่า แนวโน้มไม่ค่อยสดใส เพราะถ้าหากพลังประชาชน
ชนะถล่มทลายตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์เป็นไปตามที่โพลล์
แต่ไม่สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากพรรคอื่น
บรรดาผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชน น่าจะก่อหวอดประท้วงแน่นอน
ทำให้เกิดความไม่สงบ
ประสงค์สรุปว่า ในตรงกันข้ามทหารจะ อึดอัดยากลำบาก
และคงไม่ยอมรับรัฐบาลพรรคพลังประชาชน
3 (C) ประสงค์ ยังวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลหลังรัฐประหาร-
นายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์และรองนายกรัฐมนตรี สนธิ บุญ
สนธิรู้วิธีที่จะโค่นรัฐบาล แต่ไร้ความสามารถในการดำเนินตามแผนบันไดสี่ขั้น
ประสงค์บ่นว่า สนธิควรจะพยายามที่จะอธิบายเหตุผล ของการรัฐประหาร
เพื่อโน้มน้าวคนไทย (ให้เลิกสนับสนุนทักษิณ)
ส่วน สุรยุทธ์, ประสงค์กล่าวว่า นายก ควรจะมีความมุ่งมั่นที่จะพยายามตรวจสอบ
การคอร์รัปชั่นโดยทักษิณ
นอกจากนี้ความพยายามของรัฐบาล (สุรยุทธ) เกี่ยวกับกฎหมายต่างประเทศ
เช่นพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ (FBA), พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคง
ภายใน(ISA) และบังคับใช้สิทธิยา เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า ประสงค์บ่น
(สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของรัฐบาลไทย ในสายตาต่างประเทศ)
และการเลือกตั้งทั่วไปที่จะถึงนี้ สนธิและสุรยุทธ์ ควรจะพยายามให้มากขึ้น
ในเชิงรุก เพื่อการจูงใจคนไทยต้องเลือกผู้สมัครที่ไม่ใช่พรรคพลังประชาชน
หัวหน้าพรรค มัณชิมา ไม่ใช่นักการเมือง
4 (C) เอกอัครราชทูต เอ่ยถึงเรื่อง ชะตากรรมของ หัวหน้าพรรค
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ พรรคมัณชิมา ที่มีปัญหาทางกฎหมาย
และต้องการเลี่ยงปัญหาโดยการกระโจนเข้าสู่การเมือง (Ref A)
ประสงค์เล่าว่า การฟัดกันภายในพรรคมัณชิมา (คงจำกันได้ ล่อกันฝุ่นตลบ
แต่คนแปลจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนเอาน้ำร้อนสาดถึงจบ)
แสดงให้เห็นบุคลิคของประชัยว่า ไม่มีทักษะในทางการเมืองเสียเลย
ประชัยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ที่จะใช้เงินปูทางเข้ามาสู่อำนาจทางการเมืองให้โดดเด่น
แตกต่างกับทักษิณ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้บนเวทีการเมือง
ประชัย ได้ทำตัวเป็นประโยชน์ ในช่วงต้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณ
แต่หลังจากที่มีปัญหาทางกฎหมาย ก็เปลี่ยนเป็นตัวไร้สาระ
นายประสงค์ด่าทิ้งท้าย
สนธิผุ้อยุ่เบื้องหลัง พรรคมาตุภูมิ?
-------------------------------------------------
5 (C) เอกอัครราชทูต ถาม ประสงค์ ให้ประเมินว่าใครเป็นผู้สนับสนุน
ทางการเงินของพรรคมาตุภูมิ
(หมายเหตุ: มีหลักฐานชี้ว่าพรรคมาตุภูมิได้รับเงินการสนับสนุนจากบุคคล
ที่มีเป็นทหาร สิ้นสุดหมายเหตุ.)
ประสงค์ เล่าว่า หลายเดือนที่ผ่านมา สนธิ (บัง) ได้มาหาเขาและเล่าให้ฟังว่า
สนธิากำลังพิจารณาที่สนับสนุน
ขจิต หัพนานนท์ หัวหน้าพรรครักชาติ สนธิระบุว่าเขาจะต้องใช้เงินประมาณ
2 พันล้านบาท (60 ล้านดอลล่าร์) เพื่อสร้างพรรคขึ้นมา
กองทัพบกไทย รีบเปิดการเจรจาต่อรองการซื้อรถหุ้มเกราะ APC จากยูเครน
ในการจัดซื้อนี้ เปิดโอกาสให้ สนธิ รับเงินสด 2 พันล้านบาท
จากที่ประมูลราคาสูงเกินจริง 4 พันล้านบาท
แต่เครื่องบิน One-Two-Go ตกในจังหวัดภูเก็ต
เมื่อ กันยายน 16, 2007, มีผลให้ตัวเลขเปลี่ยนแปลง,
กรุงเทพฯ 00006170 002 ของ 002
เนื่องจาก ขจิต เป็นซีอีโอของสายการบิน
ประสงค์ยอมรับว่าเขาไม่มีหลักฐาน แต่เขาเชื่อว่าในที่สุดสนธิ
คงจะหันไปสนับสนุนพรรคมาตุภูมิแทน
(หมายเหตุ: ตามแหล่งข่าวของเรา การขายรถหุ้มเกราะ APC
ถูกระงับไว้ก่อนโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
โดยจะนำมาตัดสินใจโดยรัฐบาล ใหม่ ซึ่งทำให้พรรคมาตุภูมิ มีปัญหาเฉพาะหน้า
ในเรื่องเงินสนับสนุน โดยไม่คาดคิด End)
VCD ทักษิณ ยุทธวิธียอดเยี่ยม แต่ผิดกฎหมาย
------------------------------
¶ 6 (C) เอกอัครราชทูตยังถามเรื่องล่าสุดของ VCD ที่ทักษิณ
ที่ปราศรัยทางการเมือง สภาพการเมืองในประเทศไทย
(Ref B. )ประสงค์เล่าว่าแผ่น VCD เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เป็นยุทธวิธี
ทางการเมืองที่ฉลาด ทักษิณ ได้เล่าเรื่องความจริงที่ปวดร้าว
ว่ารัฐบาลปัจจุบัน ไม่สามารถที่จะแก้ไขความยากลำบากคนไทยเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้
ประสงค์เน้นย้ำความเชื่อว่า รัฐบาลปัจจุบัน ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับกฎหมายเช่น
FBA (กฏหมายธุรกิจการค้าต่างประเทศ)หรือ ISA (กฏหมายความมั่นคงภายใน)
แทนที่จะเน้นการเตรียมความพร้อมของประชาชนไทยสำหรับการเลือกตั้ง
ความเห็น
-------
¶ 7 (C) เหมือน ๆ กับบรรดาผู้ที่สนับสนุนการทำรัฐประหาร,
ประสงค์ผิดหวังเมื่อรู้ว่าบางสิ่งไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรือหวังไว้
กับ สนธิ (บัง) และ สุรยุทธ์ (ขิงแก่ ของเฮียบอด)
ทางเรา (เอกอัครข้าราชทูต) ไม่แสดงความเห็นทางเรา เกี่ยวกับ
เรื่องเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ไม่ว่าใครชนะก็ตาม
ต้องเผชิญกับความท้าทายยุ่งยากที่รุนแรง ในการจัดการกับผู้แพ้
Boyce
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=272408669545755&set=a.113346208785336.13804.100003298721741
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
กระทู้ข้อมูลประวัติศาสตร์ : ทักษิณเล่าจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์กับในหลวง กรณีการขายชินคอร์ป
ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ทักษิณได้เดินทางกลับประเทศไทย (สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช) และกลับออกไปอีกครั้งในปลายเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ เขาได้พบปะสนทนากับทูตสหรัฐ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2551
ในโทรเลขวิกิลีกส์ 08BANGKOK2243 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 ทูตสหรัฐได้บันทึกการสนทนาครั้งนั้น ตอนหนึ่งว่า
"ทักษิณได้ทบทวน [reflected] ว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับในหลวงในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ในหลวงทรงขอบพระทัยเป็นพิเศษที่ทักษิณได้ดำเนินการช่วยปรับปรุงการบริหารจัดการสินทรัพย์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งทำให้ความมั่งคั่งของสำนักงานฯเพิ่มมากขึ้นอย่างสำคัญ. แต่ทัศนะของในหลวงต่อเขาแย่ลง [soured] หลังจากพรรคไทยรักไทยของเขาได้เสียงข้างมากชนิดถล่มทลาย (377 ที่นั่งจาก 500 ที่นั่งในสภา) ในการเลือกตั้งปี 2548. ทักษิณกล่าวว่า หลายคนในแวดวงราชสำนัก [โทรเลขใช้คำว่า many figures at the palace - สมศักดิ์] รู้สึกถูกคุกคามจากอำนาจการเมืองของเขาและจากการที่เขาได้รับความนิยมจากคนไทยในชนบท ซึ่งชื่นชอบความมุ่งมั่นของเขาที่จะทำลายล้างความยากจน
ทักษิณยกกรณีการตัดสินใจขายกลุ่มบริษัทชินคอร์ปของเขาให้กับบริษัทเงินทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในความสัมพันธ์ของเขากับในหลวง. ทักษิณอ้างว่าได้กราบทูลให้ทรงทราบเรื่องการขายในระหว่างการเข้าเฝ้าครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการประกาศออกมาสู่สาธารณะ. ทักษิณเล่าว่า เมื่อทรงได้ยินว่าทักษิณจะขายชินคอร์ปให้กับบริษัทต่างชาติ ในหลวงทรงมีพระอากัปกริยาแข็งเกร็งตึงเครียด [stiffened] ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดและถามเขาว่า "ให้ใคร?". ทักษิณบอกทูตว่า เขาฟังคำถามของในหลวงได้ไม่ชัดนักเลยถามว่า "ขอเดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้าฯ?" ["Pardon?"]. ในหลวงทรง ..... [เซ็นเซอร์] .... ทรงพูดทวนคำถามซ้ำอย่าง ... [เซ็นเซอร์] .... ทักษิณบอกทูตว่าเขาไม่เคยเห็นในหลวงทรงมีพระกริยาเช่นนั้นมาก่อนเลย. ทักษิณกล่าวว่า หลังเหตุการณ์การเข้าเฝ้าครั้งนั้น พวกปรปักษ์ทางการเมืองของเขาก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกโจมตีเขาอย่างได้ผล กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสามารถดึงคนเข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้น ได้รับการสนับสนุนทางการเงินมากขึ้น และทำการปลุกปั่นประเด็น [manipulated] การขายชินคอร์ปอย่างได้ผล ปูทางให้กับการยอมรับการรัฐประหาร 2549 ของคนทั่วไป."
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=302676529785633&set=a.137616112958343.44289.100001298657012
กระทู้ข้อมูลประวัติศาสตร์ : ทักษิณเล่าจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์กับในหลวง กรณีการขายชินคอร์ป
ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ทักษิณได้เดินทางกลับประเทศไทย (สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช) และกลับออกไปอีกครั้งในปลายเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ เขาได้พบปะสนทนากับทูตสหรัฐ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2551
ในโทรเลขวิกิลีกส์ 08BANGKOK2243 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 ทูตสหรัฐได้บันทึกการสนทนาครั้งนั้น ตอนหนึ่งว่า
"ทักษิณได้ทบทวน [reflected] ว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับในหลวงในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ในหลวงทรงขอบพระทัยเป็นพิเศษที่ทักษิณได้ดำเนินการช่วยปรับปรุงการบริหารจัดการสินทรัพย์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งทำให้ความมั่งคั่งของสำนักงานฯเพิ่มมากขึ้นอย่างสำคัญ. แต่ทัศนะของในหลวงต่อเขาแย่ลง [soured] หลังจากพรรคไทยรักไทยของเขาได้เสียงข้างมากชนิดถล่มทลาย (377 ที่นั่งจาก 500 ที่นั่งในสภา) ในการเลือกตั้งปี 2548. ทักษิณกล่าวว่า หลายคนในแวดวงราชสำนัก [โทรเลขใช้คำว่า many figures at the palace - สมศักดิ์] รู้สึกถูกคุกคามจากอำนาจการเมืองของเขาและจากการที่เขาได้รับความนิยมจากคนไทยในชนบท ซึ่งชื่นชอบความมุ่งมั่นของเขาที่จะทำลายล้างความยากจน
ทักษิณยกกรณีการตัดสินใจขายกลุ่มบริษัทชินคอร์ปของเขาให้กับบริษัทเงินทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในความสัมพันธ์ของเขากับในหลวง. ทักษิณอ้างว่าได้กราบทูลให้ทรงทราบเรื่องการขายในระหว่างการเข้าเฝ้าครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการประกาศออกมาสู่สาธารณะ. ทักษิณเล่าว่า เมื่อทรงได้ยินว่าทักษิณจะขายชินคอร์ปให้กับบริษัทต่างชาติ ในหลวงทรงมีพระอากัปกริยาแข็งเกร็งตึงเครียด [stiffened] ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดและถามเขาว่า "ให้ใคร?". ทักษิณบอกทูตว่า เขาฟังคำถามของในหลวงได้ไม่ชัดนักเลยถามว่า "ขอเดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้าฯ?" ["Pardon?"]. ในหลวงทรง ..... [เซ็นเซอร์] .... ทรงพูดทวนคำถามซ้ำอย่าง ... [เซ็นเซอร์] .... ทักษิณบอกทูตว่าเขาไม่เคยเห็นในหลวงทรงมีพระกริยาเช่นนั้นมาก่อนเลย. ทักษิณกล่าวว่า หลังเหตุการณ์การเข้าเฝ้าครั้งนั้น พวกปรปักษ์ทางการเมืองของเขาก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกโจมตีเขาอย่างได้ผล กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสามารถดึงคนเข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้น ได้รับการสนับสนุนทางการเงินมากขึ้น และทำการปลุกปั่นประเด็น [manipulated] การขายชินคอร์ปอย่างได้ผล ปูทางให้กับการยอมรับการรัฐประหาร 2549 ของคนทั่วไป."
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=302676529785633&set=a.137616112958343.44289.100001298657012
No comments:
Post a Comment