Image via Wikipediaผู้นำคนใหม่ของเพื่อนบ้าน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
13 พ.ค. 2010 ... ผู้นำคนใหม่ของเพื่อนบ้าน
ขอแสดงความยินดีกับชาวฟิลิปปินส์ที่ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ อายุ 50 ปี ผู้มีนามว่า นายเบนิกโน ซีเมียน "นอยนอย" โกฮวงโก อากีโนที่ 3
เปิดฟ้าส่องโลกเขียนประวัตินอยนอยและพ่อแม่ของแกรับใช้ไปแล้วเมื่อ 24-26 กุมภาพันธ์ 2553
และขอแสดงความยินดีกับว่าที่ ส.ส.แชมป์โลก แมนนี ปาเกียว ซึ่งเมื่อ พ.ศ. 2550 ปาเกียวลงผู้แทนเมืองเจเนรัล ซานโตส ซิตี้ แต่ตอนนั้น ประชาชนทุกคนกลัวว่า ถ้าปาเกียวได้เป็น ส.ส.แล้ว จะเลิกชกมวย จึงไม่เลือก คราวนี้แกสมัครใหม่ในจังหวัดซารังกานี ปรากฏว่ามีผู้คนลงคะแนนให้ถล่มทลาย เพราะระหว่างหาเสียง โปรโมเตอร์อย่างนายอารัมได้ไปสัญญากับประชาชนคนในจังหวัดว่า แม้ว่าจะเป็น ส.ส. แต่ปาเกียวก็ยังจะชกกับฟรอย เมย์เวทเธอร์ นักมวยอเมริกันเหมือนเดิม
ทั้งพ่อและแม่ไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของลูกชายในโอกาสที่ก้าวขึ้น เป็นผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐ ถ้านายเบนิกโน "นีนอย" อากีโน ผู้พ่อ ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้แกก็จะอายุ 78 ปี น่าเสียดายที่นีนอยตายตอนอายุ 51 ปี
ส่วนแม่ คือ อดีตประธานาธิบดี นางโกราซอน โกฮวงโก อากีโน ถ้ายังมีชีวิตอยู่ เธอก็จะอายุ 77 ปี เสียดายที่เธอจากโลกนี้ไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง
คนฟิลิปปินส์เลือกนอยนอยเป็นผู้นำ เพราะมีความรู้สึกคุ้นเคย เหมือนดั่งนอยนอยเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว
ทวดของนอยนอยเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก่อน เป็นนายพลแห่งกองทัพปฏิวัติที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวฟิลิปปินส์
ปู่ของนอยนอยเองก็เคยเป็น ส.ส. ส.ว. เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เคยเป็นตัวแทนชาวฟิลิปปินส์ไปเจรจาเรียกร้องอิสรภาพเมื่อ พ.ศ. 2463 และ พ.ศ. 2473
พ่อของนอยนอยก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ เคยเป็นผู้สื่อข่าว ขณะเป็นผู้สื่อข่าวของ นสพ.มะนิลาไทม์ แกบุกไปสัมภาษณ์นายลุยส์ ตารุก หัวหน้าขบวนการฮุกบาลาฮัป แถมยังเกลี้ยกล่อมให้นายตารุกมอบตัวกับอดีตประธานาธิบดี รามอน แมกไซไซ จากนั้น ก็ผันตัวเองมาเป็นนายกเทศมนตรี ได้รับเลือกตั้งใหม่ให้รองผู้ว่าฯ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดี เป็นสมาชิกวุฒิสภา และเป็นตัวแทนพรรคเสรีนิยมที่เตรียมลงแข่งขันเป็นประธานาธิบดี พ.ศ. 2516 เป็นนักโทษที่ต้องรับโทษประหารชีวิตจากคำพิพากษาของศาลทหาร ต้องหนีไปสหรัฐอเมริกา และถูกยิงตายในวันกลับมาถึงประเทศเมื่อ พ.ศ. 2526
นอกจากคนฟิลิปปินส์จะชินกับญาติทางข้างพ่อของนอยนอยแล้ว ผู้ คนก็ยังมีความไว้เนื้อเชื่อใจญาติฝ่ายแม่ที่เป็นตระกูลเศรษฐีใหญ่ "โกฮวงโก" แถมบั้นปลายท้ายต่อมา คุณแม่ก็ยังเป็นประธานาธิบดีที่สู้กับอุปสรรคอย่างมากตอนที่เริ่มบริหารประเทศเมื่อ พ.ศ. 2529 ผู้คนยังประทับใจในความทรหดอดทนของแม่ที่เข้ามาเป็นผู้นำในตอนที่มีหนี้ต่างประเทศสูงมากมายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แถมมียอดชำระหนี้ต่อปีสูงถึงร้อยละ 40 ของรายได้รวมของประเทศทั้งหมด
ประชาชนยังจำภาพของอดีตแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งสามีถูกยิงตาย จนเธอต้องกลายมาเป็นประธานาธิบดี ปีแรกที่ดำรงตำแหน่ง เธอก็ต้องรับกับปัญหากบฏคอมมิวนิสต์บนเกาะลูซอน และการปฏิบัติการของกองทัพประชาชนใหม่ ยังไม่พอครับ ตอนนั้น มีขบวนการใหญ่ที่ต้องการให้แยกแตกประเทศคือ ขบวนการแบ่งแยกดินแดนมุสลิมทางภาคใต้ของเกาะมินดาเนา โอย ปัญหาอีนุงตุงนังไปหมด
ระหว่างที่เป็นประธานาธิบดี ก็มีปฏิวัติอุบัติหลายครั้ง เราฟังข่าวก็คิดว่า อ้า นางอากีโนต้องแพ้พวกปฏิวัติแหงๆ แต่ที่ไหนได้ เธอเป็นฝ่ายชนะทุกครั้ง แถมยังมีการลอบสังหารประธานาธิบดีอีกหลายหน แต่คนอย่างเธอก็รอดไปได้ทุกที
คนฟิลิปปินส์ชอบครอบครัวนี้ตรงที่รู้จักคำว่า "พอ" หกปีที่นางอากีโนพยุงสาธารณรัฐไว้ไม่ให้ล่ม สร้างความประทับใจให้คนฟิลิปปินส์ ทั้งมวล แม้แต่คนต่างชาติก็ยังชม ตอนที่ครบวาระการเป็นประธานาธิบดีเมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 มีเสียงเรียกร้องอึกทึกครึกโครมให้เธอลงสมัครต่ออีกสมัย ทั้งที่มีมือที่จะกาคะแนนให้เธอได้เป็นผู้นำต่ออีกหลายสิบล้าน ทว่าอากีโนบอกว่า อ้า ดิฉันพอแล้ว
ค้นไปในทุกตรอกซอกมุมของแผ่นดิน เพื่อหาผู้นำคนใหม่ นางอากีโนเลือก พลเอก ฟิเดล รามอส ให้เป็นประธานาธิบดีต่อจากเธอ ประชาชนก็พร้อมใจกันกาคะแนนให้พลเอกรามอสขึ้นเป็นผู้นำตามที่นางอากีโนชี้แนะ และพลเอกรามอสก็ไม่ได้ทำให้นางอากีโนและประชาชนคนทั้งประเทศผิดหวัง
หลังจากยุคของพลเอกรามอส ฟิลิปปินส์ก็กลับไปเละตุ้มเป๊ะเหมือนเดิม มีแต่เรื่องเลวร้ายให้ใจหายใจคว่ำต่อเนื่องเป็นระยะ
ประชาชนคนฟิลิปปินส์ถวิลหาผู้นำน้ำดีที่พวกตนเองคุ้นมาตั้งแต่รุ่นทวด คนตระกูลอากีโนแก้ผ้ายืนบนโต๊ะให้คนทั้งชาติมองมาเป็นเวลายาวนานถึงร้อยปี ไม่มีฝ้าไฝเม็ดไหน หรือรอยตำหนิใดที่ประชาชนคนทั่วไปยังไม่เคยเห็น
อันนี้นี่เอง ทำให้เกิดความไว้วางใจในผู้นำ
ขอแสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเพื่อนบ้าน ด้วยคนครับ.
นิติภูมิ นวรัตน์
N.2010.05.13 - นอยนอย
No comments:
Post a Comment