ข่าวดราม่าเมื่อคืนก่อน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะเงียบ เพราะไม่มีสื่อที่ไหนจะกล้านำเสนอสิ่งที่เกิดขึ้นมากไปกว่านี้
เรื่องของเรื่องคือเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม มีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร กับคนในพื้นที่.. ซึ่งไม่มีรายละเอียดว่าวิวาทอะไรยังไง กี่คน ถึงขั้นไหน .. แต่มันมาแรงตรงที่มีการพยายามเข้ามา "เคลียร์" แต่ดันเคลียร์ผิดที่... สิ่งที่เกิดขึ้นก็เลยเป็นว่า ชาวบ้านจัดงานปีใหม่กันอยู่ แล้วมีกลุ่ม "เจ้าหน้าที่ทหาร" อาวุธครบมือ เข้ามาในหมู่บ้าน แล้ว "ตบหน้า" กลุ่มคนที่กำลังนั่งผิงไฟอยู่ ในขณะที่เอาอาวุธปืนจ่อหัวชาวบ้านเหล่านั้นไว้
เรื่องมันก็แรงมากอยู่แล้ว ยังแย่หนักตรงที่
พอตบหน้าเสร็จดันมารู้ว่า "ตบผิดคน" ทำให้ต้องเผ่นกลับแบบเขินๆ...
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "ไม่เกี่ยวกับทหาร อย่าโทษทหาร"
พอรุ่งเช้าวันที่ 1 มกราคม 2558 (ปีใหม่) ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็เลยพากันไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อขอความเป็นธรรม และอัดคลิปเหตุการณ์บางส่วนมาด้วย แม้จะตัด ขาด อะไรไปบ้าง ก็พอเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า "อยู่คนละฝ่าย"
กล่าวคือ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับว่ามีพวกตนเองบางท่าน เข้าไปทำรุนแรงกับชาวบ้าน อย่างไม่มีเหตุผลอันสมควร.. ทำให้ต้องมีการนำตัวการ คือ "วัยรุ่น" ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่ในตอนแรก เข้ามาเป็นพยานชี้ตัว
ในคลิปไม่มีเหตุการณ์ต่อจากนั้น แต่มีข้อความระบุว่า ทหารได้ยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ และได้ทำการไกล่เกลี่ยกันจนสำเร็จ...
คือเรื่องของการทะเลาะวิวาทระหว่างคนเมา หรือคนไม่เมา มันเกิดขึ้นได้ ไอ้ผมก็เคยเป็นหนุ่ม ทำไมจะไม่เข้าใจอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเหล่าบุรุษเพศที่อยากทดสอบกำลังอำนาจของตัว.. แต่เมื่อมันมารวมเข้ากับภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบ ถึงแม้จะกระอักกระอ่วนใจ ก็คงต้องว่ากันไปตามกฏ ตามเอกสาร ตามความถูกต้องที่มันควรจะเป็น .. "ใครผิดก็ต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้า" สังคมมันถึงจะยังอยู่เป็นสังคม และคนคุมกฏมันจะได้เป็นคนคุมกฏต่อไปได้
"อย่าให้ต้องขุดมาเตือนกัน ว่าปัญหาชนกลุ่มน้อยที่มันยาวนาน และละเอียดอ่อน จนกลายเป็นความรุนแรงบานปลาย มันก็มาจากความ "อยุติธรรม" ที่เจ้าหน้าที่มอบให้กับคนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องนี่แล ..."
///
อรรถชัย อนันตเมฆ
ข่าวคราวปีใหม่จากหมู่บ้านลาหู่เล็กๆ บนดอยห่างไกลทำเอาหัวใจหวั่นไหว
-- เรื่องราวจากเพื่อนไมตรี รักษ์ลาหู่
หลังจากเสร็จภารกิจจัดงานคริสตมาสต์ที่บ้านห้วยลึก แกน้อย เมื่อวันที่ 27 ธันวา -- วันที่ 31 ธันวา ไมตรีกลับมาที่บ้านกองผักปิ้ง อ.เชียงดาวคืนวันส่งท้ายปีเก่านี้เองก็เกิดเหตุการณ์ --
"คืนนี้ที่บ้านกองผักปิ้ง มีรถทหารเข้ามา พอจอดปุ๊บมีคนหนึ่งที่มากับทหารชี้หน้าเด็กและผู้ใหญ่ที่กำลังนั่งผิงไฟ แล้วเข้ามาตบหน้าทุกคน วัยรุ่นไม่เท่าไหร่ แต่สงสารเด็กและผู้ใหญ่มากๆ ที่ร้องไห้เพราะโดนตบหน้าอย่างแรง ส่วนทหารก็ถือปืนแล้วบอกว่าห้ามขยับ... สักครู่ชาวบ้านก็พากันออกมา ทหารก็บอกว่า "ไม่เกี่ยวกับหทาร ห้ามใส่ร้ายทหารนะ..."
ส่วนคนที่ตบหน้าคนนั้นพอเกิดการชุลมุน ทหารก็พาหนีไปไหนก็ไม่รู้.. ... แค่จะบอกว่า "เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเรา" ทำไมสังคมถึงอยู่ยากขึ้น นั่งผิงไฟอยู่ดีๆ ก็มีคนลงมาตบหน้า ปืนจ่อหัวไม่ให้ขยับเขยื้อน "ทหารใหญ่จริงๆ"
-- วันรุ่งขึ้น ไมตรีพร้อมชาวบ้านไปเจรจากับทหาร--
"ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดวันนี้เรื่องราวที่ทหารไปตบหน้าชาวบ้านเมื่อคืน ก็ไกล่เกลี่ยกันจนสำเร็จ แต่ว่ากว่าจะไกล่เกลี่ยกันได้ กว่าทหารจะยอมรับว่าทหารเป็นคนตบหน้าจริง ก็หลายชั่วโมง... เพราะทหารบอกว่าถ้าไม่เห็นหน้าคนตบชาวบ้าน ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ก็เลยมีการขึ้นเสียงกันบ้างระหว่างผมกับทหาร
แต่ในที่สุดก็มีต้นเรื่องคือเด็กไทใหญ่ ได้มาเป็นพยานว่าทหารเป็นคนตบหน้า เท่านั้นแหล่ะ หัวหน้าชุดก็ได้ขอโทษทันที และรับปากว่าต่อไปจะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด...
มีวีดีโอที่ผมถ่ายไว้ในบางช่วงบางตอนมาให้ดูครับ ขออภัยหากวีดีโอนี้ทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมทำลงไป เพื่อเรียกร้องและเป็นปากเสียงแทนชาวบ้านที่มาร้องขอครับ ... ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี"
คลิปวิดีโอประกอบ
https://www.youtube.com/watch?v=4pnRe2J3O4Uhttps://www.facebook.com/KhorKuPhudBarngHur/posts/848091705229527https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=315172058692033&id=100005977239698KP150102
No comments:
Post a Comment